“ทบ.”จัด1,460 นาย เข้มจุดตรวจ เพิ่มลาดตระเวน

07 เม.ย. 2563 | 07:44 น.

“ทบ.” สรุปยอดส่ง กำลังพล1,460 นาย ตั้งจุดตรวจ จัดชุดลาดตระเวน ตาม พรก.ฉุกเฉิน

 

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง

 

เมื่อวันที่ 7 เม.ย.63ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก  เป็นประธานการประชุม

 

ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร้นซ์กับผู้บังคับหน่วยทั่วประเทศ โดยได้ให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่ของกองทัพบกที่จะต้องดำรงภารกิจในการป้องกันประเทศควบคู่ไปกับการต่อสู้กับภัยคุกคามที่เป็นโรคระบาดอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะการจัดกำลังปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในช่วงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 

 

เพื่อสนับสนุนรัฐบาลและศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ในทุกภารกิจ ซึ่งต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ จึงจำเป็นที่ทุกหน่วยจะต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการกำลังพล 

ผู้บัญชาการทหารบก ย้ำให้กองทัพภาคบูรณาการกำลังพลจากทุกหน่วยทหารในพื้นที่  ทุกสายงาน ทุกระดับชั้นยศ และเพศ เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานในสถานการณ์ โควิด-19 และจัดการฝึกอบรมบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีข้อมูลที่ทันต่อสถานการณ์โรคระบาด  สามารถให้คำแนะนำประชาชนและปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ ด่านตรวจ ด่านคัดกรอง  และการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าระวังและสังเกตอาการของรัฐ (State Quarantine) 

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.63 กองทัพบกได้สนับสนุนกำลังพลจากทุกกองทัพภาค จำนวน 1,460 นาย ในการตั้งจุดตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง จำนวน 307 จุดตรวจ ทั่วประเทศ พร้อมทั้งจัดชุดสายตรวจ จำนวน 1,174 นาย ออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด โควิด-19 ตามมาตรการของรัฐบาล 

 

นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.63 จนถึงปัจจุบัน กองทัพบกได้จัดชุดคัดกรองและชุดปฐมพยาบาล จากกองพันเสนารักษ์ที่ 1  กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และชุดรักษาความปลอดภัยพื้นที่จากกองพันทหารสารวัตรที่ 12 เพื่อดูแลคนไทย จำนวน 124 คน ที่กลับมาจากต่างประเทศและต้องเข้ารับการควบคุมการเฝ้าระวังและสังเกตอาการของรัฐ ที่โรงแรมเดอะภัทรา กทม. รวมทั้งได้รับมอบหมายให้เตรียมชุดแพทย์และชุดรักษาความปลอดภัยสนับสนุนภารกิจการจัดทำพื้นที่ควบคุมแห่งรัฐอีก 2 แห่ง 

ตอนท้ายของการประชุมผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้ข้อคิดกับกำลังพลว่าในสถานการณ์ประเทศไทยในขณะนี้ ประชาชนต้องเผชิญกับผลกระทบจากโรคระบาด ได้รับความเดือดร้อนทั้งเรื่องรายได้ สถานภาพการทำงาน การดำรงชีวิตประจำวัน ในฐานะที่เป็นข้าราชการ เป็นโอกาสอันดีที่กำลังพลทุกคนจะได้เสียสละ ออกมามีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือประชาชน ผ่านการปฏิบัติงานในทุกหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการคลี่คลายสถานการณ์ โควิด-19 ขอให้กำลังพลรักษาวินัยอย่างเคร่งครัดและทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ประเทศพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้โดยเร็ว