“สธ.”จ่อปรับแผน แบ่งผู้ป่วย 4 กลุ่ม ถกใช้ “ยาฟาวิราเวียร์” พรุ่งนี้

วันที่ 5 เม.ย. 63 ที่ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  กระทรวงสาธารณสุข  นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การรักษาโควิด-19 มีความพยายามปรับเปลี่ยนแนวทางจากการศึกษาวิจัยทั่วโลก และในรอบเดือนมี.ค.เปลี่ยนไปแล้ว 2 ครั้ง เพื่อประเมินการรักษา 

โดยหลักการมีการแยกผู้ป่วยตามอาการ ส่วนใหญ่จะเป็นอาการที่ไม่ค่อยรุนแรง โดยร้อยละ 20 ไม่ค่อยแสดงอาการ ร้อยละ 60 อาการไม่รุนแรง มีอาการเหมือนไข้หวัดปกติ ร้อยละ 10 ปอดอักเสบไม่รุนแรง ร้อยละ 3 ปอดอักเสบรุนแรง 

สำหรับแนวทางการรักษา แบ่ง 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มไม่ค่อยแสดงอาการจะนำส่งรักษาในโรงพยาบาล เพื่อสังเกตอาการอย่างน้อย 7 วัน หากอาการดีขึ้น และเอ็กซเรย์ปอดเป็นปกติ แพทย์จะส่งตัวไปพักต่อที่โรงพยาบาลสนาม เพื่อประหยัดเตียงของโรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลสนามในกทม. มี 3 แห่ง โดยมีห้องไว้รองรับประมาณ 600 ห้อง 

สำหรับกลุ่มอาการไม่รุนแรง แพทย์จะมีการให้ยาต้านไวรัส ที่ไม่ใช่ยาฟาวิราเวียร์ ระยะเวลาการรักษาที่โรงพยาบาลแล้วแต่อาการของแต่ละคน แต่หากอาการดีขึ้นก็จะย้ายไปพักรักษาที่โรงพยาบาลสนามเป็นเวลา 14 วัน หรือจนกว่าอาการดีขึ้นจนหายขาด หลังจากนั้นถึงจะให้กลับไปดูแลตัวเองที่บ้านให้ครบ 1 เดือน

กลุ่มปอดอักเสบไม่รุนแรง แพทย์จะพิจารณาให้ยาต้านไวรัส แต่ยังไม่ให้ยาฟาวิราเวียร์  แต่หากอาการไม่ดีขึ้นเข้าขั้นวิกฤติถึงจะพิจารณาให้ยาฟาวิราเวียร์ ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้จะพักรักษาในโรงพยาบาลและจะไม่มีการย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลสนาม และกลุ่มอาการรุนแรง แพทย์จะพิจารณาให้ยาทุกตัว ตามอาการที่เกิดขึ้น และให้รักษาในโรงพยาบาลจนหายขาด จะไม่มีการย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลสนาม 

ส่วนที่มีกระแสว่าประเทศญี่ปุ่นจะบริจาคยาฟาวิราเวียร์แล้วเหตุใดจึงต้องซื้อ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ขอชี้แจงว่าเขายังไม่บริจาค และต้องการให้มีการศึกษาวิจัยจากทั่วโลก ดังนั้นประเทศญี่ปุ่นจะให้ยาเฉพาะประเทศที่จะร่วมศึกษาวิจัย ไม่ใช้รักษาคนไข้โดยทั่วไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ยังไม่นิ่ง และเราก็พยายามดูว่าทั่วโลกใช้ยาอะไรบ้าง ซึ่งยาดังกล่าวนี้มีการใช้รักษา ไทยจึงนำมาไว้ในสูตรการรักษา
 

นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การใช้ยาฟาวิราเวียร์บางวันใช้เยอะมากถึง 2,000 เม็ด โดยปัจจุบันการใช้ยาชนิดนี้ใน 5-10 วัน จะใช้ยา 70 เม็ดต่อผู้ป่วย 1 คน ดังนั้นแนวทางการรักษาตอนนี้ 1 เดือน ใช้ยา 50,000 - 60,000 เม็ด แต่ในวันพรุ่งนี้ (6 เม.ย.) จะมีการประชุมกับคณะผู้เชี่ยวชาญ ว่าจะให้ยาชนิดนี้กับผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบไม่มากด้วยหรือไม่

ด้านนพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาการและยา (อย.)  กล่าวว่า  ยาฟาวิราเวียร์การนำเข้าครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ซื้อมาจากญี่ปุ่น 5,000 เม็ด ครั้งที่สองรับบริจาคจากจีน 2 ,000 เม็ด และ 12 มี.ค. จะซื้อจากญี่ปุ่น 4,000 เม็ด  และ30 มี.ค. ซื้อจากญี่ปุ่นอีก 4,000 เม็ด รวม 8.7 หมื่นเม็ด ใช้ไป 515 ราย คงเหลือ 38,126 เม็ด ใช้ไป 48,875 เม็ด และในคลังกลาง 11,700 เม็ด มีเป้าหมายจัดหาเพิ่มอีก 350,000 เม็ด ซึ่งมีการสั่งซื้อจากจีน 100,000 เม็ด จะได้รับยาชนิดนี้ในวันที่ 6 เม.ย. นี้ และสั่งจากญี่ปุ่นไปแล้วอีก 100,000 เม็ด