“สมพงษ์” เปิดซักฟอก 6รมต. บริหารประเทศล้มเหลว

24 ก.พ. 2563 | 07:30 น.

“สมพงษ์”นำแถลงเปิดญัตติ ซัดพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์ 6รมต. ส่อบริหารประเทศล้มเหลว - เอื้อพวกพ้อง

 “สมพงษ์” เปิดซักฟอก 6รมต. บริหารประเทศล้มเหลว

 

วันที่  24 กุมภาพันธ์ 2563  รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในสมัยประชุมสามัญ ประจำปีครั้งที่ 2 วันแรก ได้เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 13.30  น. โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานที่ประชุม  

 

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ที่แถลงรายละเอียดบุคคลที่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จำนวน 6 คน คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, 2.พล.อ.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกน, 3.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงหมาดไทย, 4.นายดอน ปรมัติวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, 5. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ 6.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ
 

 “สมพงษ์” เปิดซักฟอก 6รมต. บริหารประเทศล้มเหลว

 

ในคำแถลงญัตติ ย้ำว่าการบริหารราชการแผ่นดินของนายกฯที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต  ที่ผ่านมา ทำให้ประเทศล้มเหลวทางด้านเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง เช่นเดียวกันรัฐมนตรีที่ถูกยื่นญัตตออภิปรายไม่ไว้วางใจ มีพฤติกรรมที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต และขาดคุณธรรม ทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง รวมถึงแสวงหาประโยน์อันมิควรได้ รวมถึงใช้หน้าที่เอื้อพวกพ้อง สร้างประโยชน์ให้กับคนเองและพวกพ้อง  

 

“พรรคฝ่ายค้านไม่อาจไว้วางใจบริหารราชการประเทศต่อไป เพราะไร้ประสิทธิภาพ ล้มเหลวการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะการทุจริต ใช้อำนาจมิชอบ เอื้อประโยชน์พวกพ้อง  โดยเฉพาะการใช้อำนาจเพื่อสร้างกติกาเพื่อรักษาและสืบทอดอำนาจตนเอง ที่อ้างว่าประชาธิปไตยแต่สร้างความกังขาให้สังคม โดยตำแหน่งนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน แต่มาจากเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญ ให้ส.ว.ที่ท่านเลือกมาเลือกท่าน รวมถึงการกำหนดกลไกในรัฐธรรมนูญเสื่อมทรุด รวมถึงทำให้เรื่องผิดเป็นเรื่องถูก ขัดต่อบรรทัดฐาน ซึ่งผมเห็นว่าพวกท่านเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ประเทศ” นายสมพงษ์ แถลงญัตติ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเปิดอภิปรายฯนายสมพงษ์ ชี้แจงว่า ในความล้มเหลวที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย 1.ล้มเหลวต่อความเชื่อมั่นทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย โดยร่างรัฐธรรมนูญเพื่อพวกตนเอง, 2.ล้มเหลวต่อการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ เพราะใช้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของตนเอง พวกพ้อง ตีความทางกฎหมายเพื่อประโยชน์ของตนเอง ขณะที่ทำเรื่องผิดให้เป็นเรื่องถูก, 3.ล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จากพล.อ.ประยุทธ์ ฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ที่มือไม่ถึง รวมถึงพบว่าก่อนการเลือกตั้งและหลังเลือกตั้งใช้มาตรการแจกสารพัด เพื่อสืบทอดอำนาจ ด้วยการนำเงินภาษีประชาชน ซื้อเสียงเพื่อตอบสนองความต้องการสืบทอดอำนาจ, 4.ล้มเหลวด้านการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น และ 5.ล้มเหลวในภาวะผู้นำ โดยเฉพาะการใช้คำพูดที่สะท้อนทางปัญญาและทางอารมณ์ที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกฯ และสร้างปัญหาเพิ่มเติม

 

“การทำธุรกิจในกองทัพ ที่หาผลประโยชน์จนทำให้เกิดเหตุการณ์กราดยิงประชาชน ที่จ.นครราชสีมา ซึ่งอดีต ผบ.ทบ.และปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปล่อยปละละเลยได้อย่างไร ผมจึงไม่สามารถไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินได้ ท่านอาจแกล้งหลิ่วตาไม่เห็น เพราะคนทำเป็นคนในแวดล้อม แต่ผมไม่อาจทนให้โกงเงินเป็นแสนล้านบาท ขณะที่ประชาชนยากลำบาก อาจเป็นผู้นำกองทัพที่ดี แต่สอบตกในการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนี้ผมเห็นว่านายกฯ ไม่มีศักยภาพด้านการบริหาร หรือเป็นนักยุทธศาสตร์ ที่เป็นคุณสมบัติพื้นฐาน แต่เป็นเพียงนักธุรการทั่วไป ใช้งบประมาณ ไม่รู้จักหารายได้เข้าประเทศ และไม่มีความรู้ด้านการบริหาร” นายสมพงษ์ กล่าวเปิดอภิปราย