"ศาลรธน." รับคำร้องพ.ร.บ.งบ63 ปมเสียบบัตรแทนกัน

29 ม.ค. 2563 | 09:06 น.

ศาลรธน.รับคำร้อง”พ.ร.บ.งบ63” ปัญหาเสียบบัตรแทนกัน พร้อมให้เลขาฯ สภา และคนเสียบบัตรแทนกันยื่นคำชี้แจง 4 ก.พ.

 "ศาลรธน." รับคำร้องพ.ร.บ.งบ63  ปมเสียบบัตรแทนกัน

วันนี้ ( 29 ม.ค.63) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อและคณะ จำนวน 109  คน  นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และคณะ จำนวน 84  คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 198 วรรคหนึ่ง (1) ว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ไว้พิจารณาวินิจฉัย เนื่องจากต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148  วรรคหนึ่ง (1) ประกอบพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (1)และให้รวมการพิจารณาคำร้องทั้งสองเข้าด้วยกัน พร้อมแจ้งให้ผู้ร้องทราบและให้ผู้เกี่ยวข้อง

 

ได้แก่ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายฉลอง เทอดวีระพงศ์  ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย  น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สุมทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ  และนายสมบูรณ์ ชารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ยื่นคำชี้แจงเป็นหนังสือพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายในวันที่ 4 ก.พ.นี้  

ลุ้นศาลรธน.วินิจฉัยพ.ร.บ.งบ63“โมฆะ-ไม่โมฆะ”

ส่วนที่ประธานสภาฯส่งคำร้องของ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และคณะ จำนวน 77 คน ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในประเด็นเดียวกันนั้น  เมื่อตรวจสอบคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องเห็นว่า มีลายมือชื่อของผู้เสนอความเห็นซ้ำกับที่นายสมพงษ์ เสนอจำนวน 30 คน จึงทำให้จำนวนส.ส. ที่เข้าชื่อเสนอความเห็นตามคำร้องนี้มีจำนวนไม่ถึง1ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาคือ 75 คน จึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1 )ประกอบพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7   จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย