นายกฯชี้เฟกนิวส์อันตรายขอเด็กไทยอย่าเชื่อ

29 ม.ค. 2563 | 06:30 น.

นายกฯร่วมงานสภานักเรียนทั่วประเทศ หนุเจตนารมณ์ 4 ข้อ “เลิกใช้ถุงพลาสติก-ส่งเสริมจิตอาสา-รู้ทันข่าวปลอม-ป้องกันถูกข่มแหง”  ชี้เฟคนิวส์อันตราย ทำให้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย ทั้งระบุ "ลุงเข้ามาก็เพื่อมาดูแลพวกเราเป็นการชั่วคราว”

 

วันนี้(29 ม.ค.63) ที่หอศิลป์กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เข้าร่วมกิจกรรมเซอร์ไพร์ สภานักเรียนทั่วประเทศ เนื่องในวันสภานักเรียน ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พร้อมร่วมประกาศเจตนารมย์ ตามข้อคิดเห็นของสภานักเรียน โดยมีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมตัวแทนสภานักเรียนทั่วประเทศ เข้าร่วม  

นางสาวมินทกานต์ ถนอมไถ ประธานสภานักเรียน จากโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย ได้นำประกาศเจตนารมย์  4 ข้อ ของสภานักเรียน คือ 1.การส่งเสริมให้นักเรียนเลิกใช้ถุงพลาสติก  2.การส่งเสริมจิตอาสาเพื่อสร้างสังคมแห่งความสุข 3.การส่งเสริมให้เด็กไทยรู้ทันก่อนแบ่งปันข่าวปลอม(Fake News) และ 4.การส่งเสริมแนวทางป้องกันจากการถูกข่มเหง (Bully) 
    

โดย พล.อ.ประยุทธ์ รับข้อเสนอจากสภานักเรียน พร้อมกล่าวอย่างอารมณ์ดี ว่า รู้สึกตัวเองหนุ่มขึ้นเพราะอยู่ท่ามกลางเด็กๆ นักเรียน ซึ่งทุกคนเป็นกำลังสำคัญพัฒนาประเทศไปข้างหน้าเป็นพลังสำคัญและเป็นพลังบริสุทธิ์ ตนขอยินดีกับสภานักเรียนที่พัฒนามาอย่างยอดเยี่ยม ซึ่งในฐานะนายกฯ มีความพอใจอย่างยิ่ง ถือว่าเรามารวมพลังสร้างชาติเราเป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้องตามหลักสากลด้วย แต่เรามีชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมายาวนาน 

    นายกฯชี้เฟกนิวส์อันตรายขอเด็กไทยอย่าเชื่อ    นายกฯชี้เฟกนิวส์อันตรายขอเด็กไทยอย่าเชื่อ

 

วันนี้เรากำลังเริ่มกันแบบที่นักเรียนร่วมกันอ่านแถลงการณ์ทั้ง 4 ข้อ ซึ่งตรงกับนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว ทุกอย่างที่เราจะแก้ไขทั้ง 4 ข้อ ข้อแรก การเลิกใช้ถุงพลาสติก รัฐบาลพยายามเรื่องนี้อย่างยิ่งยวดมาตั้งแต่ปี 2560 ที่ค่อยๆ สร้างการรับรู้จนประกาศในปีนี้ แต่ต้องใช้เวลาพอสมควร ทุกอย่างต้องเริ่มจากจุดเล็กๆ จุดประกายเริ่มจากจิตใจที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมแก้ปัญหา ขณะที่เรื่องจิตอาสา ก็ต้องไม่ใช่ทำแค่ครั้งเดียว แต่ทำได้ทุกวันและขอให้ชวนเพื่อนๆ กลุ่มเดียวกันมาร่วมด้วย ซึ่งการทำความดีทำได้ทุกวัน และขอให้บันทักความดีไว้ว่าทำอะไรบ้าง และอะไรที่เป็นความสุขก็บันทึกเป็นความทรงจำ 

ส่วนเรื่องเฟกนิวส์พูดได้ตรงใจ เพราะตอนนี้แพร่หลายทั่วไป สิ่งสำคัญภูมิต้านทานการเรียนรู้คิดเป็นกระบวนการ บางข่าวไม่ได้เขียนว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่เขียนบิดเบือนให้คนคล้อยตามเป็นสเต็ปๆ ของคนทำที่ไม่หวังดี แบบนี้อันตราย ซึ่งมีทั้งคนไม่หวังดี เจตนาและไม่รู้เท่าทัน แต่คนก็เชื่อไปแล้ว  

"ที่หลายๆ คนรู้จักลุงก็เห็นจากเฟกนิวส์มาเยอะ มีทุกวัน มีเยอะกว่าคนอื่น ดังนั้นไปไหนไม่มีใครไม่รู้จักลุง แต่ที่จริงลุงใจดีไม่ใช่คนขี้โมโหบางครั้งทำงานก็ต้องจริงจังหน่อย อย่าเอาแค่รูปลุงที่มาพูด 10 วัน 20 วันแล้วมาตัดเป็นตอนๆ ให้คนเกลียดลุงเขาก็ทำได้ ซึ่งลุงไม่ใช่แบบนั้นวันนี้ไม่ได้มาพูดให้ทุกคนไม่มีความสุข ลุงก็อยากมีความสุขและอยากให้สังคมมีความสุข แต่เฟกนิวส์ทำให้สังคมไม่สงบเรียบร้อย การบริหารบ้านเมืองก็ยิ่งลำบาก ซึ่งอะไรผิดหรือถูกมีกลไกอยู่แล้ว อย่าไปเชื่อมาก ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียนหนังสือต้องมีกระบวนการคิดวิเคราะห์"

 

                    นายกฯชี้เฟกนิวส์อันตรายขอเด็กไทยอย่าเชื่อ

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนคืออนาคตของประเทศและอย่าลืมความสุขในวัยของตัวเองและอย่าเครียด เพราะเป็นวัยที่สดใส วันนี้หน้าที่ลุง และอาๆ ทำ ก็ทำเพื่อพวกเรา ลุงไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว หวังคนรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของประเทศ ซึ่งไม่ว่าประเทศไหนก็ตามที่เจริญจะต้องมี 2 อย่างด้วยกัน คือ การบริหารพัฒนาประเทศและทรัพยากรมนุษย์ ถ้าทุกอย่างดี แต่คนไม่มีคุณภาพก็อยู่ไม่ได้ เราจะเป็นตัวกระตุ้นสังคม โดยเริ่มจากครอบครัวตัวเองจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น 

ปัญหาสิ่งแวดล้อมแก้ได้ เพราะส่วนใกญ่เกิดจากคน เกิดจากธรรมชาติน้อยมาก แต่เกิดจากมนุษย์ทั้งสิ้น จึงมีหลายเรื่องที่ต้องระมัดระวัง และต้องติดตามการทำงานของรัฐบาล อยากรู้เรื่องอะไรก็เปิดเว็บไซต์ดู ทั้งกระทรวงศึกษาธิการและไทยคู่ฟ้า ถ้าไม่อ่านข้อมูลแล้วคิดเอง มันก็จะเฟกนิวส์ 


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่มากี่ร้อยปี กี่รัชกาลแล้วกว่าจะเป็นประชาธิปไตย วันนี้เรามีฐานรากที่ดีมาแล้ว ถ้าใครทำให้หลักชัย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อ่อนแอลง และแตกความสามัคคี ประเทศไทยจะไปไม่ได้ น่าภาคภูมิใจประเทศไทยไม่เคยเป็นอาณานิคมของใคร เราจะมาทำให้แตกแยกกันทำไม  

"ลุงเข้ามาก็เพื่อมาดูแลพวกเราเป็นการชั่วคราว ก็ต้องมีวันจากไปอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ต้องอยู่ในประเทศไทยด้วยกัน และวันหน้าเด็กๆ เหล่านี้ต้องมาดูแลลุง อาๆ โดยสรุปรับไว้ 4 ข้อที่เสนอมาและขอเป็นกำลังใจให้สภาฯ ทำหน้าที่ตามบทบาทเพื่อความก้าวหน้า และขอบคุณภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สนับสนุน ต้องการอะไรก็บอกมา งบประมาณมีก็ขอไป ไม่พอก็ขอมา จะได้ช่วยกันขับเคลื่อนไปพร้อมกับคนไทยทั้งชาติ กับกระทรวงศึกษาฯ” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ