‘บิ๊กป้อม’ถกบอร์ดสิ่งแวดล้อมแก้ฝุ่น

23 มกราคม 2563

นายกฯพร้อมยกระดับใช้ยาแรง แก้ PM 2.5 แต่หวั่นกระทบวงกว้าง มอบ “บิ๊กป้อม” ถกคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม 23 ม.ค. พร้อมไฟเขียวขยายเขตห้ามรถบรรทุกเข้ากรุงเทพฯ เข้มงวดตรวจควันดำรถบรรทุก-โดยสารแก้วิกฤติฝุ่น

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ .นราธิวาส (21 ..63) พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า ครม.อนุมัติแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองไปแล้ว มีทั้งแผนเฉพาะหน้าระยะสั้น ปานกลาง และระยะยาว ในทุกมิติ ซึ่งจะมีความเข้มงวดเพียงใดขึ้นอยู่กับความเข้มของฝุ่น PM2.5 อยู่ระดับใดและในพื้นที่ไหนบ้าง จากข้อมูลปัจจุบันทราบว่า สาเหตุมาจากการจราจรมากที่สุดรองลงมาคือการเผา และจากอุตสาหกรรม

หลายคนอยากให้ออกมาตรการที่เป็นยาแรง แต่ถ้าทำก็จะเป็นข้อขัดแย้ง เดือดร้อนกันไปหมด การดำเนินการทุกอย่างมีขั้นตอนเป็นระดับๆ ถ้าค่าเกิน 50 ไมโครกรัม ตามกฎหมายต้องไปเข้มงวดทุกแหล่งที่มาถ้าเจอจับ ปรับ ห้ามวิ่ง ห้ามเดินเครื่อง ถ้าเกิน 50-75 ไมโครกรัม ผู้ว่าฯมีอำนาจ ออกมาตรการเข้มงวดขึ้นเฉพาะพื้นที่ ถ้าสูง 76-100 ไมโครกรัม ก็มีความเข้มงวดเพิ่มขึ้นไปอีก เช่น ห้ามรถออกวันโน้นวันนี้ ก็จะมีผลกระทบพอสมควร แต่ถ้าเกิน 100 ไมโครกรัม รัฐบาลจะเข้าเทกโอเวอร์ทั้งหมด ทีนี้จะเดือดร้อนกันหมด ทั้งห้ามใช้รถส่วนตัวให้ใช้รถสาธารณะอย่างเดียว ห้ามรถบรรทุกเข้าออก ห้ามรถเกิน 10 ปีวิ่ง นั่นคือยาแรง เราต้องการไปถึงจุดนั้นกันหรือ

นายกฯกล่าวอีกว่า จึงต้องสร้างความเข้าใจให้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้นก็จะเดือดร้อนปั่นป่วนกันไปหมด กฎหมายมีทุกเรื่องแต่เอามาใช้บังคับไม่ได้ เพราะคนเดือดร้อนทั้งมากและน้อย จึงต้องแก้ปัญหาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เรื่องนี้เป็นนโยบายสาธารณะ ต้องฟังทุกภาคส่วน รัฐบาลให้ความสำคัญทำมาตลอดทุกอย่าง เพื่อแก้ปัญหาในภาพรวมให้ได้ คาดว่ารายละเอียดทั้งหมดจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคมนี้ ที่มีพล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน การแก้ปัญหาก็จะลงมาตรการแรงไปทีละขั้นๆ เป็นแต่ละพื้นที่ไป เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบโดยรวม

 

ทั้งนี้ ที่ประชุมครม. มีมติเป็นชอบยกระดับมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองในช่วงสถานการณ์วิกฤติ ตามที่กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) มอบหมายหน่วยงานดำเนินการโดยเร่งด่วน

1. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกข้อบังคับเพิ่มเติมขยายพื้นที่จำกัดรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ห้ามเข้ากรุงเทพฯ จากแนววงแหวนรัชดาภิเษก เป็นวงแหวน กาญจนาภิเษก และห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่ชั้นในกทม.วันคี่ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์นี้ วันคู่เข้าได้ในช่วงเวลากำหนด เพิ่มความเข้มงวดตรวจรถควันดำ ห้ามใช้รถก่อมลพิษเกินมาตรฐาน

2. กรมการขนส่งทางบก ตรวจวัดควันดำรถโดยสารไม่ประจำทางทุกคัน เพิ่มชุดตรวจเป็น 50 ชุดใน 50 เขต ร่วมมือกับตำรวจจราจรตรวจควันดำ

3. กรมโรงงานอุตสาหกรรม ออกตรวจโรงงานที่ก่อฝุ่นละออง ถ้าไม่เป็นไปตามค่ามาตรฐานให้สั่งปรับปรุงในเวลาที่กำหนดหรือสั่งหยุดประกอบการ ขอความร่วมมือลดกำลังผลิตช่วงวิกฤติฝุ่นละออง เพิ่มแรงจูงใจให้โรงงานที่ร่วมมือ

4. กรุงเทพมหานคร กวดขันแก้ปัญหาจราจรจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าเพื่อลดฝุ่นละออง ให้ปฏิบัติตามมาตรการ 12 ข้ออย่างเคร่งครัด ไม่ให้มีการเผาในที่โล่งแจ้ง

 

5. ในพื้นที่จังหวัดต่าง ยกเว้น 9 จังหวัดภาคเหนือ ให้ออกเทศบัญญัติหรือข้อบัญญัติท้องถิ่น ควบคุมการเผาขยะมูลฝอย หญ้า พืชไร่ ตอซังข้าว ไม่ว่าจะในที่ของตนเองหรือในที่สาธารณะในช่วงวิกฤติฝุ่นละออง เข้มงวดควบคุมยานพาหนะ ตรวจโรงงานต่าง และ

6. ข้อเสนออื่น คือ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนลดใช้รถยนต์ส่วนบุคคลมาทำงาน รถราชการต้องผ่านมาตรฐานควันดำ ทุกคัน กระทรวงพลังงานพิจารณาสนับสนุนลดราคานํ้ามันที่มีกำมะถัน ไม่เกิน 10 พีพีเอ็ม และให้ทส.และหน่วยราชการสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 โดยเฉพาะในช่วงสถาน การณ์วิกฤติ