“นิพิฏฐ์”ซัด“นาที-ฉลอง”ส่อผิดอาญา-ทำพรบ.งบโมฆะ

22 ม.ค. 2563 | 07:27 น.

“นิพิฏฐ์”เดินหน้าซัด “นาที-ฉลอง” 2 ส.ส.ภูมิใจไทย เข้าข่ายมีความผิดอาญา ฐานรู้เห็นเป็นใจให้บุคคลอื่นใช้สิทธิแทน และร่างพ.ร.บ.งบประมาณส่อโมฆะ แนะยอมรับสารภาพว่าไม่ได้กดบัตรลงคะแนนด้วยตัวเองมาตราใดบ้าง

  

วันนี้ (22 ม.ค.63) ที่รัฐสภา นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม แต่ปรากฏชื่อในการลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2563 ว่า ส่วนตัวมีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้กดบัตรแทนกันของนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย โดยพบว่า นางนาที และคณะได้เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยังเมืองเจิ้งโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 11 ม.ค.2563 ด้วยสายการบินไทยสมายล์เที่ยวบิน เที่ยวบิน WE680  ซึ่งช่วงเวลาเดียวกับการประชุมสภาพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 แต่กลับปรากฏชื่อของนางนาที ในการลงคะแนนด้วย  

                                                       “นิพิฏฐ์”ซัด“นาที-ฉลอง”ส่อผิดอาญา-ทำพรบ.งบโมฆะ

 

ทั้งนี้ นางนาที เดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 15.28 น. แต่เมื่อตรวจสอบย้อนกลับไปถึงการลงมติพบว่า ในเวลา 15.46 น. ได้ลงมติในมาตรา 49 ว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการพัมนาและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก มาตรา 48 ว่าด้วยงบประมาณสำหรับแผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่ระดับภาค เวลา 15.19น. มาตรา 47 ว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เวลา 15.17 น. มาตรา 46 ว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการพัฒนาผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมสู่สากล เวลา 14.56น. มาตรา 45 ว่าด้วยงบประมาณสำหรับแผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ เวลา 14.51 น. 

“ผมเพียงแต่มาแถลงความจริงว่า กระบวนการตราร่างกฎหมายไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญท่านั้น ส่วนส.ส.จะดำเนินการอย่างไรก็แล้วแต่ ส.ส. เพราะผมไม่มีสิทธิยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะผมต้องการขอแถลงข้อเท็จจริงต่อประชาชน ไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างพ.ร.บ.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และเจ้าของบัตรอาจมีความรับผิดทางอาญา เนื่องจากรู้เห็นเป็นใจให้บุคคลอื่นใช้สิทธิแทน” 

 

นายนิพิฏฐ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวกำลังพยายามคิดช่วยอยู่ว่าจะให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ไม่เป็นโมฆะ แต่พรรคภูมิใจไทย ต้องยอมเสียอวัยวะเพื่อรักษาร่างกาย โดยทั้งนางนาที และนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ต้องยอมรับสารภาพว่าไม่ได้กดบัตรลงคะแนนด้วยตัวเอง ในมาตราใดบ้าง เพื่อที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญแยกการพิจารณาออกมาได้ และเพื่อไม่ให้กระทบเสียงส่วนใหญ่ของการพิจารณางบประมาณ แต่หากทั้ง 2 คน ไม่ยอมรับ เท่ากับว่าจะเป็นไปแนวทางที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยแล้ว