จ่อชง12กฎเหล็กแก้ฝุ่นPM2.5

17 ม.ค. 2563 | 11:01 น.

โฆษกรัฐบาลวอนประชาชนอย่าตื่นตระหนก ยันรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 กรมควบคุมมลพิษ เผย เตรียมชง 12 มาตรการเข้า ครม. แก้ฝุ่นพิษ 21 ม.ค.นี้

17 มกราคม 2563 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการเป็นประธานการประชุมหารือการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ว่า ตามข้อสั่งการของนายกฯอยากให้ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี ( PMOC ) และสำนักโฆษกสำนักนายกฯมีส่วนร่วมในการสร้างการรับรู้กับประชาชนเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการกำจัดฝุ่นละออง PM 2.5 โดยสถิติสถานการณ์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เมื่อเทียบกับ 2 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า สถานการณ์ดีขึ้น แต่รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ อยากให้จำนวนวันที่มีฝุ่นละออง PM 2.5 เกินลดลงกว่านี้อีก จึงมีมาตรการต่างๆ ออกมา โดยกรมควบคุมมลพิษได้พิจารณามาตรการเพิ่มเติม ซึ่งจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุม ครม.สัญจรในวันที่ 21 ม.ค.นี้ ที่ จ.นราธิวาส

ทั้งนี้ อยากเรียนประชาชนว่า เหตุการณ์ไม่น่าตื่นตระหนกอย่างที่เข้าใจกัน เพราะจากตัวเลขสถิติจริงๆ สถานการณ์ดีขึ้น แต่รัฐบาลอยากให้ดีขึ้นกว่านี้ จึงเตรียม 12 มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5

ด้านนายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวถึง 12 มาตรการแก้ปัญหาฝุ่นละอองว่า ประกอบด้วย

1.ขยายเขตพื้นที่จำกัดรถบรรทุกเข้ากรุงเทพฯจากวงแหวนรัชดาภิเษกเป็นวงแหวนกาญจนาภิเษก

2.ห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่ชั้นในของกทม.ในวันคี่ ระหว่างเดือนมกราคม –กุมภาพันธ์ 2563

3.ตรวจวัดควันดำรถโดยสาร (ไม่ประจำทาง) ทุกวัน โดยเพิ่มชุดตรวจเป็น 50 ชุดครบทั้ง 50 เขตของกรุงเทพมหานคร
4.กรมการขนส่งทางบกปฏิบัติการร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร ในการตรวจสอบตรวจจับรถควันดำสำหรับรถโดยสารและรถบรรทุกเพื่อการออกคำสั่งห้ามใช้รถ
5.ตรวจสอบโรงงานที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง หากไม่เป็นไปตามมาตรฐานให้สั่งปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนดหรือสั่งหยุดการประกอบกิจการ
6.กำกับให้กิจกรรมก่อสร้างรถไฟฟ้าและการก่อสร้างอื่นๆเป็นไปตามข้อกำหนดไม่ทำให้เกิดฝุ่น และปัญหาการจราจรในบริเวณรอบพื้นที่ก่อสร้าง
7.ไม่ให้มีการเผาในที่โล่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้างวดกับผู้กระทำการเผา
8.จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาศัยอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องควบคุมการเผาในที่โล่งในช่วงสถานการณ์วิกฤตฝุ่นละออง และเข้มงวดการควบคุมยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และการก่อสร้าง
9.ลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิง (Premium) ที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกิน 10 ppm ซึ่งเป็นน้ำมันที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองน้อย
10.ขอความร่วมมือลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวมาทำงานและรถยนต์ของส่วนราชการต้องผ่านมาตรฐานควันดำทุกคัน
11.ให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถานศึกษา สนับสนุนการจัดโครงการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์ดีเซลที่มีอายุเกิน 5 ปี เพื่อช่วยลดฝุ่นละออง
12.สร้างการรับรู้และความเข้าใจให้แก่ประชาชนที่เกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง