“เพื่อไทย”ส่องดออกเสียงวาระ3พรบ.งบประมาณ

08 ม.ค. 2563 | 10:42 น.


 “เพื่อไทย”ส่องดออกเสียงวาระ 3 อ้างพบร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปัญหาขัดรธน.-ก.ม.งบประมาณ ชี้งบกลางส่วนเงินฉุกเฉิน ส่อมีเลศนัย-ตั้งงบเกินจำเป็น ขอหั่นให้เหมาะสม
     

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2ล้านล้านบาทวาระ 2  ซึ่งได้เริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 10.04 น. จนถึงเวลา 17.00 น. ยังเป็นการอภิปรายในมาตรา 5 ว่าด้วยงบกลาง วงเงิน 5.18 แสนล้านบาท 

ขณะที่การลงมติตั้งแต่มาตราแรก ถึงมาตรา 4 แม้เสียงของส.ส.ฝั่งรัฐบาลจะลงมติเห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างมาก แต่พบว่าการออกเสียงในส่วนของงดออกเสียง มีจำนวนที่มากเช่นกัน โดยจากการตรวจสอบผลการลงมติพบว่าส.ส.ที่ลงมติงดออกเสียง เป็นส.ส.ซีกฝ่ายค้าน อาทิ พรรคเพื่อไทย, พรรคอนาคตใหม่ เป็นต้น  

 

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญกุล กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่อเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยงดออกเสียงแทนการลงมติไม่เห็นชอบ ว่า เป็นทิศทางที่พรรคเพื่อไทยเห็นว่า ควรงดออกเสียง เนื่องจากร่างพ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้มีปัญหาในประเด็นที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 ที่กำหนดให้จัดสรรงบประมาณเฉพาะหน่วยรับงบประมาณ ซึ่งในส่วนของกองทุนหมุนเวียนกำหนดชัดเจนว่า ต้องมีสถานะเป็นนิติบุคคล อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในวาระ 3 ที่จะต้องลงมติทั้งฉบับนั้น พรรคเพื่อไทย จะใช้สิทธิงดออกเสียง  

“ในรายละเอียดกมธ.ฯ เคยท้วงติงให้แก้ไข แต่ไม่ทราบเหตุผลทำไมจึงไม่ได้รับการแก้ไข จึงถือว่ากมธ.เสียงข้างมากสร้างภาระให้ส.ส.ที่อาจถูกตรวจสอบโดยองค์กรอิสระได้ ผมยืนยันว่า มาตรา 53 ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 มีเนื้อหาขัดกฎหมายวิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 อาจจะมีปัญหาในการเบิกจ่ายงบประมาณ เนื่องจากกองทุนซึ่งไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคลถูกแยกงบประมาณออกจากกระทรวงแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถผ่านกระทรวงได้ และปัจจุบันพบว่าการจัดสรรงบให้กองทุนต่างๆ ได้ดำเนินการล่วงหน้าไปแล้ว  

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานรายงานว่า สำหรับการอภิปรายในมาตรา 5 ส่วนของงบกลางนั้น  มีกมธ.เสียงข้างน้อยสงวนความเห็นรวม 25 คนและมีส.ส.สงวนคำแปรญัตติ รวม 100 คน ทั้งนี้กมธ.เสียงข้างน้อย และส.ส.ที่สงวนคำแปรญัตติอภิปรายให้ปรับลดงบประมาณส่วนค่าใช้จ่ายรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 9.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากตั้งงบประมาณไว้มากเกินความจำเป็น และเกินศักยภาพในการเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงระยะเวลาที่จะใช้งบประมาณ ปี 2563 เหลือเพียง 6 เดือนเท่านั้น   


อาทิ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ตนขอปรับลดงบประมาณงบกลาง เพื่อจ่ายรายการเงินสำรองจ่ายพื่อกรณีฉุกเฉิน 9.6 หมื่นล้านบาท ให้เหลือ 6.4 หมื่นล้านบาท  เนื่องจากมองว่าวงเงินที่ตั้งไว้ดังกล่าวมีเลศนัย เพราะพิจารณาพฤติกรรมจากการใช้งบประมาณ ปี 2562 ที่ผ่านมา นำไปใช้เพื่อโครงการชิม ชอป ใช้ ของรัฐบาล เฟส1 และเฟส2 หรือ มีกระแสข่าวจากหนังสือพิมพ์ของไทยว่า รัฐบาลจะใช้งบกลางกว่า 4พันล้านบาท เพื่อผลิตหมอนยางพาราง 


อย่างไรก็ตาม การใช้งบประมาณในโครงการต่างๆ ควรวิเคราะห์และตรวจสอบประสิทธิภาพของการใช้งบประมาณและสิ่งที่ประชาชนควรจะได้รับประโยชน์