‘วิลาศ’ ร่วมสอบสภาใหม่ ‘เพื่อไทย’ดึงนั่งที่ปรึกษากมธ.โควตาพรรค

25 ธ.ค. 2562 | 04:00 น.

“วิลาศ” ไม่ตกขบวน นั่งที่ปรึกษากมธ.สอบสร้างสภาใหม่ โควตา “เพื่อไทย” พร้อมร่วมวงประชุมครั้งหน้า เตรียมแฉเบื้องหลังถูกถอดชื่อออกจาก กมธ. ลั่นตราบใดที่ยังด่าพรรคปชป.แสดงว่ายังเป็นสมาชิกอยู่

 

นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส..กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจภายหลังคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ สภาผู้แทนราษฎร ตั้งเป็นที่ปรึกษาคณะ กมธ. ในโควตาพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ในเมื่อพรรคเพื่อไทยเสนอ ชื่อตั้งตนเป็นที่ปรึกษากมธ. ก็ต้องรับ โดยในการเสนอชื่อคนเสนอหาตัวตนไม่เจอ จึงได้เสนอชื่อตนไปเลย ซึ่งก็ไม่ขัดข้องอะไร ในการประชุมนัดหน้า มีส่งหมายให้ตนไปร่วมประชุมวันอังคารหน้า ในฐานะที่ปรึกษา

ในเมื่อเขาเสนอไปแล้วก็ต้องรับ พรรคเพื่อไทยเห็นว่าเป็นประโยชน์ เขาบอกตรงๆ ว่าไม่มีใครรู้เรื่องสร้างสภาใหม่เท่าผม จริงๆ ทางเพื่อไทยบอกว่าจะลาออก 1 คน เพื่อให้ผมไปเป็นกมธ.แทน แต่ผมบอกว่ามันผิดมารยาท ผมอยู่ประชาธิปัตย์ แล้วไปทำอย่างนั้นมันไม่ได้ เขาก็บอกว่าเพื่อประโยชน์ของประเทศ เขาพร้อมออก

นอกจากนี้ นายวิลาศ ระบุว่า สัปดาห์หน้าจะแถลงข่าวกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ถอนชื่อตนออกจากการเป็นกมธ. โดยอ้างว่าติดต่อไม่ได้ พร้อมยํ้าว่า การถอนชื่อตนออกถือว่าขัดมติพรรค มีการแก้ตัวนํ้าขุ่นๆ โดยไม่ได้ออกมาแถลงข่าว แต่บอกว่าเนื่องจากคนที่เสนอถอนชื่อ ตนออก ทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อคนอื่นแทน

 

‘วิลาศ’ ร่วมสอบสภาใหม่  ‘เพื่อไทย’ดึงนั่งที่ปรึกษากมธ.โควตาพรรค

 

ในสัปดาห์หน้าผมจะแฉว่ามีการไปบอกต่อกันอย่างไร กระบวนการเราไม่รู้ว่าใครประสานกับใคร แต่ประสานตั้งแต่เริ่มมีมติ ต่อมามีคนแจ้งว่าขอเปลี่ยนคน โดยให้นายสุทัศน์ เงินหมื่น เสนอถอนชื่อ พอถอนชื่อผมออกก็เปลี่ยนคนเลย มันเป็นกระบวนการที่เอื้อประโยชน์กัน และผมมั่นใจว่ามันผิดข้อบังคับพรรค

ในตอนท้าย อดีตส.. กทม. กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่าวันนี้ผมยังอยู่กับประชาธิปัตย์ ผมยังเป็นสมาชิกพรรค ผมขอ บอกว่าถ้าวันไหนผมยังด่าพรรค แสดงว่าผมยังอยู่ แต่ถ้าวันไหนผมออกจากพรรคเมื่อไหร่ ผมจะเลิกด่าพรรคทันที

ด้านนายอนันต์ ผลอำนวย ..กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ แถลงรายละเอียดการประชุมนัดแรกว่า จะพิจารณาศึกษารายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการก่อ สร้าง และเหตุที่งานก่อสร้างมีความล่าช้า โดยไม่ตรวจสอบ หรือชี้ว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นถูกหรือผิด หรือเกี่ยวกับการทุจริต

 

การตรวจสอบภายในระยะเวลา 60 วันนั้น นัดแรกจะเชิญรองเลขาธิการสภา และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาโครงการ เข้าให้ข้อมูล ขณะที่การตรวจสอบในราย ละเอียดนั้นจะเชิญวิศวกร และอัยการสูงสุด ให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับสัญญา และงานก่อสร้างที่ล่าช้า

อย่างไรก็ตาม กมธ.อาจจะไม่พิจารณาถึงประเด็นที่เกิดขึ้นในอดีต เช่น กรณีที่ข้าราชการของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ถูกผู้มีอำนาจโยกย้ายออกจากตำแหน่ง เพราะเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับสำนักงานเลขาธิการ สภาฯ เป็นผู้พิจารณา

ส่วนกรณีที่สังคมตั้งประเด็นที่กมธ.วิสามัญฯ มี 4 ..ของพรรคภูมิใจไทย ในฐานะผู้ที่อยู่ในเครือข่ายบริษัทผู้รับจ้าง คือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เพราะแกนนำพรรคเคยเป็นผู้บริหารบริษัท จะเข้ามาเพื่อปก ป้องผลประโยชน์ของผู้รับจ้าง ตนในฐานะประธาน กมธ.ไม่กังวลต่อเรื่องดังกล่าว เพราะการทำงานของกมธ.จะเป็นไปตามข้อเท็จจริง ไม่มีใครที่สามารถโน้มน้าวผลให้เป็นอย่างใดอย่างหนึ่งได้

ด้านนายไกลก้อง ไวทยการ ..บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ โฆษก กมธ. และประธานคณะอนุกมธ.ด้านระบบสาร สนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ความคืบหน้าของงานระบบไอซีที ล่าสุดคืบหน้า 40% ช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ที่ 80%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กมธ.ชุดนี้ได้กำหนดกรอบการดำเนินงาน เช่น แบบการก่อสร้าง ข้อกำหนดทีโออาร์ การทำสัญญา การอนุมัติงบประมาณและการก่อหนี้ผูกพัน ปัญหาและอุปสรรคในการส่งมอบพื้นที่ การต่ออายุสัญญา เงื่อนไขของการต่ออายุสัญญาทั้ง 4 ครั้ง และการป้องกันเหตุแห่งการต่ออายุสัญญาครั้งต่อไป ความคืบหน้าในการก่อสร้างในปัจจุบัน ระบบสาร สนเทศและเทคโนโลยี และระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ โดยที่ประชุมกำหนดประชุมกันทุกวันอังคาร

 

 

สอดไส้คนกันเองสอบสภาใหม่

วัชระปูดสอดไส้คนกันเองนั่งเป็นกมธ. เปิด 4 ชื่อเอี่ยวสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ล่าช้า

นายวัชระ เพชรทอง อดีตส..พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี 12 คน ว่า เป็นที่น่าสงสัยมาก เพราะตั้งผู้ที่จะถูกสอบสวนหรือลูกน้องผู้ถูกสอบสวนมานั่งเป็นกมธ.ด้วย ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ของสภาไทย

นายวัชระ กล่าวว่า โดยหลักของการสอบหาข้อเท็จจริง ผู้สอบข้อเท็จจริงกับผู้ถูกสอบข้อเท็จจริง ต้องไม่มีความเกี่ยวข้องกัน หรือในภาษากฎหมายเรียกว่า การขัดกันแห่งผลประโยชน์ และที่ร้ายแรงที่สุดที่ไม่ควรเกิดขึ้นในการสอบข้อเท็จจริงคือ ผู้สอบข้อเท็จจริงกับผู้ถูกสอบข้อเท็จจริงเป็นคนคนเดียวกัน เพราะจะทำให้ผลการสอบข้อเท็จจริงไม่เกิดความชอบธรรมหรือความจริงแน่นอน

สำหรับผู้ที่ควรจะถูกสอบข้อเท็จจริง แต่กลับเป็นผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นกมธ.เสียเอง คือ 1. นายสุชาติ โรจน์ทองคำ รองเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร และในอีกฐานะคือ ประธานคณะกรรมการตรวจการจ้าง (ตรวจรับ) งานก่อสร้างอาคารรัฐสภา ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการพิจารณาตรวจรับงานการก่อสร้าง และให้ความเห็นชอบในการขยายระยะเวลาการก่อสร้าง และงานไอซีที งานสาธารณูปโภค ตลอดจนงาน อื่นๆ และเป็นกรรมการเร่งรัดการก่อสร้างอาคารรัฐสภา และต้องรับผิดชอบโดยตรง หากปรากฏว่าการขยายเวลาก่อสร้างเป็นไปโดยมิชอบ

 2. นายพินิจ พูลเกิด ที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างฯ CAMA เป็นผู้ที่ได้รับค่าตอบแทนจากสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ในการให้คำปรึกษา ประสานงาน รวมทั้งให้ความเห็นในการพิจารณาการขยายระยะเวลาการก่อสร้าง และเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง หากปรากฏว่าการขยายระยะเวลาการก่อสร้างเป็นไปโดยมิชอบ

3. นายพงศ์กิตต์ อรุณ-ภักดีสกุล และนางปัณณิตา สะท้านไตรภพ ข้าราชการระดับสูงของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งเป็นผู้แทนของ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา โดยมีนายนัท ผาสุข เลขาธิการ วุฒิสภา เป็นผู้บังคับบัญชาของนายพงศ์กิตต์ และนางปัณณิตา ซึ่งสามารถให้คุณให้โทษแก่บุคคลทั้ง 2 ได้โดยตรง ทั้งนี้สถานะของนายนัท ย่อมส่งผลโดยตรงกับความเห็นของบุคคลทั้ง 2 อย่างชัดเจน

นายนัท เป็นกรรมการและเลขานุการของคณะกรรมการเร่งรัดการก่อสร้าง และเป็นกรรมการบริหารการก่อสร้าง ซึ่งได้รับทราบและไม่คัดค้านผลของการขยายระยะเวลาการก่อสร้าง และเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง หากข้อเท็จจริงปรากฏว่า การขยายระยะเวลาการก่อสร้างเป็นไปโดยมิชอบ

 “ด้วยเหตุผลโดยประจักษ์ดังกล่าวนี้ ย่อมเป็นที่แน่นอนว่า ความเห็นของบุคคลทั้ง 4 ในฐานะกมธ.ตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างอาคารรัฐสภา จึงมีลักษณะเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์อย่างชัดเจน และมีลักษณะอันไม่เป็นธรรม เนื่องจากผู้สอบข้อเท็จจริงกับผู้ถูกสอบข้อเท็จจริง เป็นบุคคลคนเดียวกันนั่นเอง

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,534 วันที่ 26-28 ธันวาคม 2562

‘วิลาศ’ ร่วมสอบสภาใหม่  ‘เพื่อไทย’ดึงนั่งที่ปรึกษากมธ.โควตาพรรค