"บิ๊กตู่"นำประกาศ"ต้านโกง-ไม่ทนทุจริต"

09 ธ.ค. 2562 | 08:16 น.

"บิ๊กตู่" นำประกาศเจตนารมณ์ เนื่องใน "วันต่อต้านทุจริตสากล" ย้ำสร้างจิตสำนึก-ความร่วมมือ เปลี่ยนผ่านประเทศสู่สิ่งดีกว่าทุกมิติ ชี้ต้องลงโทษคนโกงจริงจัง รวดเร็ว 

 

"บิ๊กตู่"นำประกาศ"ต้านโกง-ไม่ทนทุจริต"

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2562 เวลา 09.30น. ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (International Anti-Corruption Day) โดยมีคณะรัฐมนตรี ผู้แทนจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) พร้อมมอบรางวัลการประเมินคุณธรรมและ ความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 (ITA  Awards) และรางวัลการแข่งขันกิจกรรมเดิน-วิ่ง "Good Guy Run 2019" รวมพลัง วิ่งเพื่อส่งเสริมความดี 
 


ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล โดยถือเป็นตัวอย่างที่ดี จึงขอให้มีการขยายและนำร่องทำต่อไปให้มีความเชื่อมโยงกัน ทั้งนี้รัฐบาลร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ท. องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคมได้ร่วมกันจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขึ้น เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนร่วมกันของคนไทย และทุกภาคส่วนในสังคมในการต่อต้านการทุจริต และตระหนักถึงภัยร้ายแรงของ ปัญหาคอร์รัปชัน ซึ่งถือเป็นปัญหาร้ายแรงที่ส่งผลเสียหายต่อประเทศ

 

อย่างไรก็ตาม ทุกคนทราบอยู่แล้วว่าเราจัดงานนี้กันเพื่ออะไร สิ่งสำคัญทำอย่างไรให้เกิดผลจริงจัง ไม่ใช่พูดแล้วก็จบไม่ทำต่อ ดังนั้น ต้องสร้างจิตสำนึกและความร่วมมือโดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทย ที่กำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านสู่สิ่งที่ดีกว่าในทุกมิติ  ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจริต ซึ่งถือเป็นภัยร้ายแรงส่งผลเสียต่อประเทศ และทำให้การพัฒนาประเทศเป็นไปได้ช้า ไม่ใช่เฉพาะเรื่องใหญ่ ๆ เท่านั้น แต่การทุจริต มีทั้งการทุจริตเวลาราชการ และไม่เคารพกฎหมายในเรื่องต่าง ๆ  สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นปัญหาหลายอย่างตามมา เช่น การเรียกรับผลประโยชน์ ความขัดแย้ง และเรื่องอื่นๆ หากมีการทำผิดกฎหมาย          

 

"บิ๊กตู่"นำประกาศ"ต้านโกง-ไม่ทนทุจริต"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายราชการประจำ โดยได้ดำเนินการพัฒนา ปรับปรุงกฎหมายต่าง ๆ ให้ครอบคลุม และเป็นเรื่องที่ต้องแทรกอยู่ในการปฏิรูปทุก ๆ ด้าน ทั้งในเรื่องความโปร่งใสในการดำเนินงานของภาครัฐ ส่งเสริมให้กระบวนการยุติธรรมปราศจากการแทรกแซงของนักการเมืองและผู้มีอิทธิพล ตลอดจนการกำหนดให้มีการลงโทษผู้กระทำผิดกรณีทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างจริงจังและรวดเร็ว ทุกฝ่ายต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยตรวจสอบและเฝ้าระวังด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังไม่พอ เราต้องทำต่อไปและต้องเชื่อมั่นในกฎหมายเป็นสิ่งสำคัญ หลายคนคิดได้แต่ทำไม่ได้ ดังนั้นต้องทำอย่างไรให้ช่วยกันแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้ โดยรัฐบาลนี้รวมถึงรัฐบาลต่อไปต้องวางรากฐานทางความคิดของประชาชน 

         

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ความคิดแตกต่างกันซึ่งถือเป็นประชาธิปไตย ขณะเดียวกันคนไทยจะต้องก้าวข้ามค่านิยมอุปถัมภ์ และความเพิกเฉยต่อการทุจริตประพฤติมิชอบ รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ต้องได้รับความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นจากประชาชนว่าสามารถปกป้องผลประโยชน์ของชาติ 

"บิ๊กตู่"นำประกาศ"ต้านโกง-ไม่ทนทุจริต"          

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 พ.ศ. 2560 - 2564 ที่มีเป้าหมายให้ "ประเทศไทยใสสะอาด ไทยทั้งชาติต้านทุจริต"  โดยมุ่งหวังให้ระยะ 5 ปีข้างหน้า จะเป็นการปฏิรูปกระบวนการทำงานจากเดิม ไปสู่กระบวนการทำงานแบบบูรณาการทั้งระบบ อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันสถานการณ์การทุจริตในประเทศไทยดีขึ้นหลายมิติ แต่ต้องเดินหน้าแก้ปัญหาต่อเนื่อง สิ่งสำคัญเรื่องกฎหมายที่ต้องมีการแก้ไข ปรับปรุงให้ทันสมัยต่อสากล แต่คนทุจริตคือคนไม่ดีที่เก่งหาช่องโหว่กฎหมายจนได้ ดังนั้น ทุกคนต้องมีจิตใจเริ่มจากตัวเองก่อน อย่าทำอะไรที่เป็นการทุจริต หากทำได้ลดความขัดแย้งได้มาก และกฎหมายก็จะได้รับความเชื่อถือ ดังนั้น ผู้ที่ทุจริตจะถูกต่อต้านและถูกลงโทษทั้งจากกฎหมายและสังคม ทั้งนี้เรามีหลักสูตรด้านการต่อต้านทุจริต ที่กำหนดเป้าหมายให้สถานศึกษาทุกแห่งนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อปลูกฝังให้คนในชาติคิดถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม มีจิตสาธารณะ และละอายต่อการทำทุจริตทุกรูปแบบ

         

 

"บิ๊กตู่"นำประกาศ"ต้านโกง-ไม่ทนทุจริต"

"ทุกคนต้องรู้จักคิดและนำมาปฏิบัติ มีจริยธรรม รู้ว่าชาติคืออะไร ประเทศคืออะไร เพราะทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ นายกฯ ทำคนเดียวไม่ได้ วันนี้ผมทำงานเหมือนเดิมและหนักกว่าที่ผ่านมา 5 ปีด้วยซ้ำ มีหลายคนเรียกร้องใช้มาตรการเด็ดขาด แต่ตอนนี้ไม่มีแบบเดิม ไม่มีมาตรา 44 แล้ว ทุกคนต้องเรียนรู้และการปรับตัวให้รู้แก้ปัญหาไม่เร็วแบบเดิม เพราะต้องใช้เวลา ฝากทุกคนช่วยคิดด้วย ส่วนการปะเมินรัฐบาลนั้น รัฐบาลจะขึ้นจะลงผมไม่สนใจ คิดแต่ทำอย่างไร วันนี้ต้องสร้างหลักคิดทำงานร่วมกัน จับมือเดินไปด้วยกัน และต้องไม่ใช้ความรู้สึกแก้ปัญหาและสร้างความขัดแย้ง ขณะเดียวกันทุกคนคาดหวังผม ผมเข้าใจและยอมรับ และผมจะทำให้มากสุดเท่าที่จะทำได้  ใจผมทำงานเกินร้อย และทุกคนทำงานหนักทุกเรื่อง ทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ดังนั้น วันนี้ขอให้ทุกคนช่วยกันคิดและช่วยกันทำด้วย ใครทำแล้วก็ให้ทำยิ่งขึ้น ขอทุกคนช่วยทำความดี ทำให้ประเทศไทยเดินหน้าไปให้ได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

          ​

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ นำกล่าวประกาศเจตนารมณ์ว่า "ข้าพเจ้า ขอประกาศเจตนารมณ์ว่า จะประพฤติปฏิบัติตน ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่กระทำการทุจริต จะยึดมั่นในความยุติธรรม ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน จักปกป้องเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยจิตอาสา พร้อมทำความดี ด้วยหัวใจ ตลอดไป"