หนุนทางเลือกแทน 3สารพิษ แบบไร้ต้นทุน

      มูลนิธิชีววิถี ร่วมกับเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง 686 องค์กร จัดสัมมนา "ทางเลือกเกษตรกรรมไทยหลังแบน 3 สาร" ในวันที่ 19 พ.ย.2562 เพื่อสื่อสารและสร้างความเข้าใจต่อสังคม รวมทั้งหาแนวทาง สร้างทางเลือก และหามาตรการสนับสนุนเกษตรกรหลังการแบน 3 สารเคมีทางการเกษตร

      นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี กล่าวว่าการจัดงานเพื่อให้เกษตรกรและคนทั่วไปที่ร่วมกันผลักดันให้เกิดการแบนสารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิดมีความมั่นใจ ว่าหลังจากการแบนแล้ว มีมาตรการต่างๆ รองรับชัดเจน ขณะเดียวกันหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องต้องไม่ปล่อยให้เกษตรกรต้องรับภาระที่อาจจะเกิดขึ้นหลังการแบนในครั้งนี้

      นอกจากนี้การสัมมนาที่เกิดขึ้น ยังต้องการให้สังคมได้รับรู้ว่าเกษตรอินทรีย์สามารถทำได้บนพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ระดับ 400-500 ไร่ได้ เพราะมีเกษตรกรที่สามารถทำได้จริง มาบอกเล่าประสบการณ์ ขณะเดียวกัน ยังมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของกลุ่มเกษตรกรอินทรีย์ ว่าแนวทางการทำเกษตรอินทรีย์มีให้เรียนรู้ได้ทั่วไป เพราะขณะนี้ประเทศไทยมีพื้นที่เกษตรยั่งยืนประมาณ 33 ล้านไร่ มีเกษตรอินทรีย์กว่า 1 ล้านไร่ และได้รับรองแล้วประมาณ 500,000 ไร่ ซึ่งเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ที่อยู่ทั่วประเทศนี้พร้อมจะเปิดโอกาสให้ทุกคนที่สนใจเข้าไปเรียนรู้พร้อมเผยแพร่เทคนิคและวิธีการจนสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง

      ผู้อำนวยการชีววิถี เชื่อว่า สังคมไทยหลังการแบนสารเคมีจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายๆ ด้าน อาทิ องค์ความรู้ใหม่ๆ ว่าด้วยศัตรูพืชและวัชพืชจะต้องเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง เพราะแมลงหรือวัชพืช ไม่ใช่ทั้งหมดที่เป็นศัตรูพืช ขณะเดียวกันเทคโนโลยีทางการเกษตรจะถูกนำมาใช้มากขึ้น พร้อมๆ กับการตื่นตัวของชุมชนต่อการจัดการการใช้สารเคมีจะมีความชัดเจนและมีอิสระในการตัดสินใจ ที่สำคัญคนรุ่นใหม่จะหันมาให้ความสนใจกับภาคเกษตรมากขึ้น

     "ทางเราและเครือข่าย 686 องค์กรยังคงสนับสนุนรัฐบาลให้เดินหน้ายกเลิกการใช้สารพิษร้ายแรงทางการเกษตรต่อไป ขณะเดียวกันก็มีแนวทางและหลักการเสนอต่อสังคมกรณีทางเลือกการจัดการวัชพืช ที่สำคัญเรามีข้อเสนอต่อรัฐบาลในการสนับสนุนเกษตรกรในการปรับเปลี่ยน โดยเกษตรกรไม่ต้องเป็นผู้รับภาระหากมีต้นทุนสูงขึ้น” นายวิฑูรย์ กล่าวถึงเป้าหมายของสัมมนาที่เกิดขึ้น