กกต.เปิดกม.แจง “ธนาธร” โปรดอ่านให้เข้าใจ

19 พ.ย. 2562 | 06:34 น.

กกต.แจงหลัง “ธนาธร”ยื่นฟ้อง ยันไม่เคยเร่งรัดสำนวนด้วยเหตุจูงใจทางการเมือง ยกข้อกฎหมายแจง สิ้นสภาพส.ส.จากการถือครองหุ้นสื่อไปศาลรธน.ทันที

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

     เมื่อวันที่ 19 พ.ย.2562 สำนักงานคณะกรรมการกสรเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มอบอำนาจให้ทนายความ ไปยื่นฟ้องคณะกรรมการ กกต. ทั้ง 7 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหาความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการ จากการกล่าวหานายธนาธร ถือครองหุ้นสื่อ ของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด เป็นการเร่งรัดคดีโดยมีเหตุจูงใจทางการเมือง ซึ่งกรณีดังกล่าว กกต.เคยชี้แจงแล้ว ว่า การดําเนินการกรณีสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง เป็นการดําเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสี่ ที่กําหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นการเฉพาะ ไม่ได้บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายอื่นใด และไม่ได้อยู่ในนิยามของกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 ดังนั้น การดําเนินการจึงไม่อยู่ภายใต้บังคับของระเบียบ กกต. เมื่อกกต.เห็นว่าสมาชิกภาพของ ส.ส.คนใดคนหนึ่งมีเหตุสิ้นสุดลง ก็สามารถยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ทันที

 

     “กรณี นายธนาธร เป็นกรณีความปรากฏต่อ กกต.ว่าสําเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ. 5)มีชื่อนายธนาธร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ กกต.จึงได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย”


 

      ส่วนการดําเนินการกรณคีดีอาญา เป็นการดําเนินการตามพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 151 (ผู้ใดรู้อยู่ว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทําหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ) ซึ่งมีกระบวนการ “ไต่สวน” ตามระเบียบกกต.คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนต้องแสวงหา และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเสนอสํานวน ต่อกกต.เพื่อพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด โดยต้องให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาทราบข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานโดยสรุป รวมทั้งให้โอกาสมาให้ถ้อยคําหรือแสดงพยานหลักฐานด้วย 

 

      กรณี นายธนาธร มีผู้กล่าวหาว่าฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ตามพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 151 ประกอบรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98 (3) รู้อยู่ว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นส.ส. ซึ่ง กกต.ได้ดําเนินการตามระเบียบว่าด้วยการสืบสวนการไต่สวนฯ ขณะนี้ยังเป็นสํานวนอยู่ในขั้นตอนการดําเนินการของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนฯ กกต.ยังไม่ได้มีคําวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องดังกล่าว และไม่ได้มีการเร่งรัดหรือมีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองแต่อย่างใด