ไพบูลย์ ยื่นสอบ“เสรีพิศุทธิ์”ใช้อำนาจเกินขอบเขต
ไพบูลย์ ยื่นสอบ“เสรีพิศุทธิ์”ใช้อำนาจเกินขอบเขต ส่อขัด รธน.หลายมาตรา
วันที่ 7 พ.ย.2562 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านคณะทำงาน เพื่อขอให้แจ้งไปยังกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ ทั้ง 35 คณะ ระงับการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คำสั่งเรียกของ กมธ. ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2554 โดยเฉพาะมาตรา 5, มาตรา 8 และมาตรา 13 ว่าด้วยการออกคำสั่งเรียกเอกสาร จากบุคคลในกิจการที่กระทำหรือพิจารณาสอบสวนหรือศึกษาไม่ได้ หากบุคคลที่ถูกออกคำสั่งไม่มาแถลงข้อเท็จจริง ให้ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 5,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากบทบัญญัติดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 ที่ให้อำนาจเพียงแค่การเรียกเอกสารหรือบุคคลเท่านั้น ไม่มีบทบัญญัติใดที่สามารถเอาผิดในความอาญาได้ อีกทั้งเรื่องดังกล่าวตนได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความด้วยว่าเนื้อหาในพ.ร.บ.คำสั่งเรียก พ.ศ.2554 นั้นขัดกับรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ดังนั้นหากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สรุปว่าขัด กมธ.ที่ใช้อำนาจตามกฎหมายคำสั่งเรียกดังกล่าวอาจถูกบุคคลฟ้องเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ได้
“ผมมีความเป็นห่วงและขอแสดงความเป็นห่วงไปยังพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ฐานะประธานกมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ทั้งนี้แม้ตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะยังไม่ได้วินิจฉัย หากกมธ.ใดจะใช้อำนาจตามกฎหมายคำสั่งเรียก ต้องพร้อมรับความเสี่ยงเอาเอง เพราะเชื่อว่ามีบุคคลหลายคนที่เล็งเอาผิด อย่างไรก็ตามเมื่อศาลรัฐธรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้ว จะมีผลผูกพันไปจนถึงวันที่รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ด้วย” นายไพบูลย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ากระบวนการที่เตือนกมธ.ยับยั้งการใช้อำนาจ เป็นกระบวนการปกป้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่ถูก กมธ.ปราบโกงเรียกให้ตรวจสอบหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนประสงค์ดี เพราะไม่ต้องการให้กมธ.ฯ ใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นบุคคลที่ทำหน้าที่สภาฯ ควรปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องและตรงกับบทบัญญัติของกฎหมาย โดยไม่ใช้กฎหมายเพื่อให้เป็นประเด็นทางการเมือง.