นายกฯชวนลดใช้พลาสติกเเละโฟม

21 ก.ค. 2561 | 05:32 น.
นายกฯชวนลดใช้พลาสติกเเละโฟม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”ว่า” ผมอยากให้พวกเราทุกคน ได้ใช้โอกาสมหามงคลนี้ เป็น “จุดเริ่มต้น” ที่เอาจริงเอาจัง ในการร่วมกัน ทำกิจกรรม “จิตอาสา” ที่เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม รอบๆ ตัวเราร่วมกับชาวโลกอีกกว่า 7,000 ล้านคน ในการจะป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกและโฟม 20 ปีที่ผ่านมานั้น ประเทศไทยมีการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว จำนวน 45,000 ล้านใบต่อปี โฟมบรรจุอาหาร เกือบ 7,000 ล้านใบต่อปี แก้วพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว เกือบ 10,000 ล้านใบต่อปี ทั้งนี้ เราทุกคนต่างก็รู้ดีว่า พลาสติกและโฟม นั้นเป็นวัสดุที่ย่อยสลายยาก และใช้เวลาหลายร้อยปี

หากไม่มีการบริหารจัดการที่ถูกต้องเหมาะสมแล้วตั้งแต่วันนี้ จะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ทั้งทางบกและทางทะเลในภายหลัง ที่เกินกว่าจะควบคุมดูแล สำหรับประเทศไทยของเรานั้น ถูกระบุว่ามีปัญหาขยะทางทะเล เป็นอันดับ 6 ของโลกนะครับ และตามที่ปรากฏในข่าวว่า มีวาฬและเต่าทะเล “ตาย...เพราะกินถุงพลาสติก” ที่ลอยในทะเล เป็นต้น

tu21-7

คงไม่ได้มีผลกระทบเฉพาะมนุษย์เท่านั้นนะครับ สัตว์บก สัตว์น้ำ มีผลกระทบทั้งสิ้น อันตรายนะครับ ที่ผ่านมานั้น รัฐบาล โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ได้รณรงค์เพื่อการลดขยะและพลาสติก ไม่ให้ลงมาในแม่น้ำ ลำคลอง และทะเล อาทิ การลดใช้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้า การเลิกใช้พลาสติกหุ้มฝาขวด (แคปซีล)”

”การติดตั้งทุ่นลอยดักขยะปากแม่น้ำและลำคลอง รวมทั้งมาตรการชายหาดปลอดบุหรี่ ในพื้นที่ 24 จังหวัดชายทะเล เป็นต้น วันนี้ ผมขอขยายผลการดำเนินงานทั่วประเทศ ในการลดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว และโฟมบรรจุอาหาร อย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ “ทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม” โดยบูรณาการ “พลังประชารัฐ” ร่วมไม้ ร่วมมือ ร่วมใจกันนะครับ ภาครัฐ - เอกชน - และประชาชน ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาพลาสติก ให้เป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพ

plas

รัฐบาลได้กำหนดให้ดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม เป็นต้นไป เช่น (1) กิจกรรมการลดและคัดแยกขยะมูลฝอย ในหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนและภาคเอกชน (2) กิจกรรม “ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก” โดยส่งเสริม ห้างสรรพ สินค้า ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสดทั่วประเทศ ลดการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วและงดใช้โฟมบรรจุอาหาร พร้อมๆ กับการสร้างความรู้ - ความเข้าใจกับประชาชน “ผู้บริโภค” เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้บรรจุภัณฑ์ หรือภาชนะที่ใช้ซ้ำได้เช่น การพกถุงผ้ามาจ่ายตลาด การใส่ของรวมกันในถุงเดียวเพื่อลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติก

(3) กิจกรรมการลดใช้ถุง - ขวดน้ำ - แก้วน้ำพลาสติก และกล่องโฟม ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และสวนสัตว์ ทั่วประเทศ รวมทั้ง จัดให้มีการคัดแยกขยะมูลฝอยด้วย และ (4) กิจกรรมการจัดการขยะบกสู่ทะเล ในพื้นที่ 24 จังหวัดชายทะเล เป็นต้น ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมทำความดีด้วยหัวใจ ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก ในตลาดสดซึ่งจะเริ่มพร้อมกัน ทั่วประเทศ วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม นี้ เป็นต้นไป

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

การรณรงค์แยกขยะและการลดใช้ถุงพลาสติกและบรรจุภัณฑ์ที่ไม่จำเป็นนี้ นอกจากจะช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วย ยังจะช่วยให้ประเทศประหยัดงบประมาณในการกำจัดขยะมูลฝอยอีกด้วย ปีๆ หนึ่ง นะครับ รัฐบาลต้องใช้งบประมาณกว่า 20,000 ล้านบาทในการจัดการขยะมูลฝอย ขณะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเก็บค่าจัดการขยะได้ปีละเพียง 3,000 ล้านบาท เราจะได้มีเงินเหลือนะครับ มาใช้ในการพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆ อีกด้วยนะครับ อย่างไรก็ตาม มาตรการที่กล่าวมานั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็น “ฝ่ายผู้บริโภค”ในขณะที่ผมเห็นว่า “ฝ่ายผู้ให้บริการ” แม่ค้า ร้านขายปลีก ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ไปจนถึงห้างร้าน ห้างสรรพสินค้าต่างๆ เราสามารถร่วมรับผิดชอบกับสังคม และโลกของเรา ได้ด้วยเช่นกัน เราอาจจะหามาตรการจูงใจ กระตุ้นการ “ลดรับถุงพลาสติก” เช่น การลดราคาให้บ้าง การสะสมคะแนน หรือมีการโปรโมชั่นอื่นๆ ตามที่จะริเริ่มสร้างสรรค์กันขึ้นมาได้นะครับ เพราะสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใกล้ตัว และอยู่รอบๆ ตัวเรา ที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะตามมาได้อีกแล้วนะครับ

นอกจากนี้ ผมได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอย “ทั้งระบบ” ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ที่ชัดเจนได้โดยเร็ว เป็นการจัดตั้ง “ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย แบบครบวงจร” ในทุกกลุ่มพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 7,800 กว่าแห่ง ที่มีการรวมกลุ่มเพื่อกำจัดขยะมูลฝอย - ภูเขาขยะ 324 ลูก ทั่วประเทศ ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนโดยขอให้พิจารณาขนาด และที่ตั้ง ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ของแต่ละพื้นที่ เป็นสำคัญ อีกทั้ง ให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ตามระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย”

e-book-1-503x62