นายกฯย้ำเเก้มลพิษทางน้ำ“คนไทยทุกคนต้องช่วยกัน”
นายกฯย้ำเเก้มลพิษทางน้ำ“คนไทยทุกคนต้องช่วยกัน”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”ว่า”สำหรับปัญหามลพิษทางน้ำที่เกิดจากการปล่อยน้ำเสีย จากบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ธุรกิจการท่องเที่ยว วันนี้ประเทศไทย มีระบบการบำบัดน้ำเสีย อาจจะยังไม่เพียงพอนะครับ โดยเฉพาะน้ำเสียจากชุมชน ที่มีปริมาณราว 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีอยู่ 100 แห่งทั่วประเทศนั้น สามารถบำบัดน้ำเสียที่เข้าสู่ระบบ ได้เพียง 3.2 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็นเหตุให้มีน้ำเสียลงสู่ธรรมชาติกว่า 7 ล้านลูกบาศก์ เมตรต่อวัน ส่งผลให้ปัญหานั้น จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลจึงได้ริเริ่ม โครงการจิตอาสา เพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิต บนวิถีแห่งความพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ มีเป้าหมายก็เพื่อจะปลูกจิตสำนึก จิตสาธารณะ ให้ประชาชนร่วมแรงร่วมใจ ในการรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ชุมชนและประเทศชาติ โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมนะครับ เหนือประโยชน์ส่วนตน ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะทำให้สังคมมีความสุข อยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน
นอกจากนั้นจะเป็น “ภูมิคุ้มกัน” ให้แก่ชุมชนด้วย สร้างความเข้มแข็งให้ทุกภาคส่วน ตามหลักการของ “ศาสตร์พระราชา” ที่เราต้องแก้ปัญหาจากฐานราก จากกระบวนการภายใน โดยการพึ่งตนเอง ทำให้ชุมชนและหมู่บ้านมีพื้นฐานที่มั่นคง ในครั้งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างพร้อมเพรียงกัน “ทั่วประเทศ” จึงจัดให้ดำเนินโครงการต่างๆ มากมาย ที่เกี่ยวข้องกับลำน้ำ กว่า 606 โครงการ นะครับ ครอบคลุม 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ด้วย
สิ่งสำคัญที่สุด ก็คือ เมื่อเราทำแล้ววันนี้ ก็จะต้องมีความก้าวหน้า มีความต่อเนื่อง ชุมชนต้องดำเนินการต่อไปนะครับ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งและสวยงาม ไม่ว่าจะหน้าบ้าน หรือหลังบ้าน ที่มีคลอง ลำน้ำ มีถนน ก็ต้องช่วยรักษาความสะอาดนะครับ สุขอนามัย ทำให้สวยงาม ก็อยากให้ทุกคนได้สืบสานสิ่งเหล่านี้ต่อไป ก็ขอให้ทุกคนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐ - ท้องถิ่น - ภาคประชาชน ได้ติดตาม กำกับดูแล
และขอความร่วมมือ ในเรื่องการระบายน้ำเสียลงสู่ลำน้ำสาธารณะ ให้มีที่ดักไขมัน หรือกรองน้ำเสียก่อน ตามกฎหมายนะครับ เราต้องช่วยกันรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของเรา คนละไม้ คนละมือ หวังให้รัฐแต่เพียงอย่างเดียวคงไม่มีวันประสบความสำเร็จ “สมบูรณ์” ได้ ต้องร่วมมือกัน”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”ว่า”สำหรับปัญหามลพิษทางน้ำที่เกิดจากการปล่อยน้ำเสีย จากบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ธุรกิจการท่องเที่ยว วันนี้ประเทศไทย มีระบบการบำบัดน้ำเสีย อาจจะยังไม่เพียงพอนะครับ โดยเฉพาะน้ำเสียจากชุมชน ที่มีปริมาณราว 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีอยู่ 100 แห่งทั่วประเทศนั้น สามารถบำบัดน้ำเสียที่เข้าสู่ระบบ ได้เพียง 3.2 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็นเหตุให้มีน้ำเสียลงสู่ธรรมชาติกว่า 7 ล้านลูกบาศก์ เมตรต่อวัน ส่งผลให้ปัญหานั้น จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลจึงได้ริเริ่ม โครงการจิตอาสา เพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิต บนวิถีแห่งความพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ มีเป้าหมายก็เพื่อจะปลูกจิตสำนึก จิตสาธารณะ ให้ประชาชนร่วมแรงร่วมใจ ในการรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ชุมชนและประเทศชาติ โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมนะครับ เหนือประโยชน์ส่วนตน ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะทำให้สังคมมีความสุข อยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน
นอกจากนั้นจะเป็น “ภูมิคุ้มกัน” ให้แก่ชุมชนด้วย สร้างความเข้มแข็งให้ทุกภาคส่วน ตามหลักการของ “ศาสตร์พระราชา” ที่เราต้องแก้ปัญหาจากฐานราก จากกระบวนการภายใน โดยการพึ่งตนเอง ทำให้ชุมชนและหมู่บ้านมีพื้นฐานที่มั่นคง ในครั้งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างพร้อมเพรียงกัน “ทั่วประเทศ” จึงจัดให้ดำเนินโครงการต่างๆ มากมาย ที่เกี่ยวข้องกับลำน้ำ กว่า 606 โครงการ นะครับ ครอบคลุม 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ด้วย
สิ่งสำคัญที่สุด ก็คือ เมื่อเราทำแล้ววันนี้ ก็จะต้องมีความก้าวหน้า มีความต่อเนื่อง ชุมชนต้องดำเนินการต่อไปนะครับ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งและสวยงาม ไม่ว่าจะหน้าบ้าน หรือหลังบ้าน ที่มีคลอง ลำน้ำ มีถนน ก็ต้องช่วยรักษาความสะอาดนะครับ สุขอนามัย ทำให้สวยงาม ก็อยากให้ทุกคนได้สืบสานสิ่งเหล่านี้ต่อไป ก็ขอให้ทุกคนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐ - ท้องถิ่น - ภาคประชาชน ได้ติดตาม กำกับดูแล
และขอความร่วมมือ ในเรื่องการระบายน้ำเสียลงสู่ลำน้ำสาธารณะ ให้มีที่ดักไขมัน หรือกรองน้ำเสียก่อน ตามกฎหมายนะครับ เราต้องช่วยกันรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของเรา คนละไม้ คนละมือ หวังให้รัฐแต่เพียงอย่างเดียวคงไม่มีวันประสบความสำเร็จ “สมบูรณ์” ได้ ต้องร่วมมือกัน”
