“นายกฯ” ชี้ ใช้ "Big Data" บริหารราชการแผ่นดิน
- 15 พ.ค. 61 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เป็นประธานการประชุมครม. โดยก่อนการประชุม นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นำคณะเข้าพบเพื่อจัดแสดงนิทรรศการ เรื่องการดำเนินการและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) โดยมีบูธนำเสนอผลงานจากการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ Big Data ของภาครัฐ 4 เรื่อง ได้แก่
1. Big Data analytics เพื่อพัฒนาโมเดลการคาดการณ์ความสามารถของบิดามารดา ในการเลี้ยงบุตรวัย 0-3 ขวบ
2. การลดปัญหาการตัดไฟฟ้าจากการชำระเงินล่าช้า
3. การใช้ข้อมูล Social media เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
และ 4. การทำนายลักษณะภูมิอากาศกับการเตรียมความพร้อมของท่าอากาศยาน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ดีแล้ว ถือเป็นการนำมาใช้ในการบริหาร รวมถึงการรองรับความเสี่ยง ตนต้องการให้นำมาใช้ในการบริหารราชการให้ได้ และต้องขอขอบคุณทุกคน อย่างในเรื่องของโครงการไทยนิยมก็สามารถนำไปใช้ได้กับการท่องเที่ยวชุมชน อยากให้นำไปใช้กับ 12 เมืองรองห้ามพลาด ซึ่งตนเห็นแล้วก็ชื่นใจ ถือเป็นการนำมาใช้เพื่อการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งบางคนทำเพราะอยากจะได้ เข้าใจประชาชนก็อยากได้ทุกอย่าง แต่รัฐบาลไม่สามารถให้ทุกอย่างได้ ต้องหาทำอะไรก่อนและหลัง และตรงนี้ถือเป็นการนำไปใช้กับการปฏิรูปด้วย สามารถนำไปบูรณาการทำงานข้ามกระทรวงได้ ทั้งเรื่องของประชาชน ความเดือดร้อน การทำงานของรัฐ เช่นการซ่อมถนนหนทาง
“เมื่อมีข้อมูลต้องซ่อมเส้นทางไหน ต้องลาดยางหรือไม่ลาดยาง ประชาชนเดือดร้อนตรงไหนไปเริ่มตรงนี้ก่อน โดยเฉพาะบริเวณถนนเส้นไหนที่เสียบ่อยทำก่อน งบประมาณก็จะไปตรงนี้ ไม่อย่างนั้นงบฯก็กระจายไปทั่ว ทำให้ใช้งบฯเยอะ ทุกคนต้องเข้ามาใช้ Big Data ตรงนี้ จำเป็นต้องใช้ ถ้าไม่มีข้อมูลก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิม ถือเป็นการใช้ Big Data ในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งใช้กันทั้งโลกแล้ว”
1. Big Data analytics เพื่อพัฒนาโมเดลการคาดการณ์ความสามารถของบิดามารดา ในการเลี้ยงบุตรวัย 0-3 ขวบ
2. การลดปัญหาการตัดไฟฟ้าจากการชำระเงินล่าช้า
3. การใช้ข้อมูล Social media เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
และ 4. การทำนายลักษณะภูมิอากาศกับการเตรียมความพร้อมของท่าอากาศยาน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ดีแล้ว ถือเป็นการนำมาใช้ในการบริหาร รวมถึงการรองรับความเสี่ยง ตนต้องการให้นำมาใช้ในการบริหารราชการให้ได้ และต้องขอขอบคุณทุกคน อย่างในเรื่องของโครงการไทยนิยมก็สามารถนำไปใช้ได้กับการท่องเที่ยวชุมชน อยากให้นำไปใช้กับ 12 เมืองรองห้ามพลาด ซึ่งตนเห็นแล้วก็ชื่นใจ ถือเป็นการนำมาใช้เพื่อการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งบางคนทำเพราะอยากจะได้ เข้าใจประชาชนก็อยากได้ทุกอย่าง แต่รัฐบาลไม่สามารถให้ทุกอย่างได้ ต้องหาทำอะไรก่อนและหลัง และตรงนี้ถือเป็นการนำไปใช้กับการปฏิรูปด้วย สามารถนำไปบูรณาการทำงานข้ามกระทรวงได้ ทั้งเรื่องของประชาชน ความเดือดร้อน การทำงานของรัฐ เช่นการซ่อมถนนหนทาง
“เมื่อมีข้อมูลต้องซ่อมเส้นทางไหน ต้องลาดยางหรือไม่ลาดยาง ประชาชนเดือดร้อนตรงไหนไปเริ่มตรงนี้ก่อน โดยเฉพาะบริเวณถนนเส้นไหนที่เสียบ่อยทำก่อน งบประมาณก็จะไปตรงนี้ ไม่อย่างนั้นงบฯก็กระจายไปทั่ว ทำให้ใช้งบฯเยอะ ทุกคนต้องเข้ามาใช้ Big Data ตรงนี้ จำเป็นต้องใช้ ถ้าไม่มีข้อมูลก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิม ถือเป็นการใช้ Big Data ในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งใช้กันทั้งโลกแล้ว”