ไทยช่วยกัมพูชา มอบ 38 ล.สร้างศูนย์ฝึกอาชีพ-บำบัดผู้ติดยา

17 ธ.ค. 2560 | 09:32 น.
ไทยช่วยกัมพูชา มอบ 38 ล.สร้างศูนย์ฝึกอาชีพ-บำบัดผู้ติดยาเสพติด

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางไปยังกระทรวงมหาดไทย ของกัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยเป็นผู้แทนรัฐบาลไทย มอบเงิน จำนวน 38,011,400 บาท ให้กับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อนำไปใช้ในการก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพและบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติ ณ อำเภอสตึงฮาว จังหวัดพระสีหนุ ภายใต้ "โครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือด้านบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกับประเทศกัมพูชา" โดย นายเกา คอนดารา รักษาการประธานคณะกรรมการต่อสู้ยาเสพติดแห่งชาติ แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (เทียบเท่ารัฐมนตรี) เป็นผู้แทนฝ่ายกัมพูชารับมอบความช่วยเหลือดังกล่าว

camb

สืบเนื่องจากเมื่อต้นปี 2560 รัฐบาลกัมพูชาได้เปิดปฏิบัติการรณรงค์ต่อสู้ยาเสพติดแห่งชาติ ส่งผลให้ผู้ต้องการเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดมีจำนวนสูงขึ้น ในขณะที่ขีดความสามารถในการให้บริการด้านดังกล่าวไม่สามารถรองรับได้ จึงได้ร้องขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย และต่อมา ครม.ได้พิจารณาอนุมัติสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างอาคารของศูนย์ฯ จำนวน 4 อาคาร ประกอบด้วย อาคารบริการสุขภาพ อาคารผู้ป่วยชาย อาคารผู้ป่วยหญิง และอาคารฝึกอาชีพผู้ป่วยชาย ทั้งนี้ กัมพูชายังได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนที่ได้มาจากการยึดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติด จากการบริจาคของภาคเอกชน และประชาชน รวมถึงจากประเทศภาคีอื่นๆ ด้วย
camb2 การให้ความช่วยเหลือของประเทศไทยแก่กัมพูชาในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหายาเสพติดและลดผลกระทบของยาเสพติด รวมถึง ปัญหาด้านสาธารณสุข การลักลอบข้ามแดน และอาชญากรรม โดยเฉพาะตามแนวชายแดนที่ติดกับไทย และเป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีนโยบายในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้าน เน้นการพัฒนาอย่างเท่าเทียม และเกื้อกูล โดยจะไม่ทิ้งประเทศเพื่อนบ้านใดไว้ข้างหลัง และยังเป็นการปกป้องประเทศในกลุ่มอาเซียนให้ปลอดภัยจากยาเสพติด ตามเป้าประสงค์ของแผนปฏิบัติการอาเซียนเพื่อประชาคมอาเซียนปลอดภัยจากยาเสพติด ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2559 - 2568)อีกด้วย

camb3

โดยในการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (Joint Cabinet Retreat-JCR) ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3 ณ กรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2560 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความยินดีในหลักการสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์ฯ ดังกล่าวนี้ ต่อ สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ตามที่ได้ร้องขอและเป็นที่มาของการส่งมอบความช่วยเหลือในครั้งนี้

camb4

สำหรับพิธีส่งมอบความช่วยเหลือฯ ในครั้งนี้ มีแขกผู้มีเกียรติร่วมเป็นสักขีพยาน ได้แก่ หัวหน้าหน่วยงานกลางยาเสพติด และผู้บริหารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศ อาทิ พลตำรวจเอก เมียะ วริศ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการต่อสู้ยาเสพติดแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (NACD) และฝ่ายไทย อาทิ นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. นายชลัยสิน โพธิเจริญ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นพ.ภาสกร ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์ นพ.สรายุทธ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี รวมถึงผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้แก่ นายดามพ์ บุญธรรม อัครราชทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ และแขกผู้มีเกียรติจากสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ ณ กรุงพนมเปญ รวมกว่า 100 ท่าน
camb5

จากนั้นรองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ สมเด็จกลาโหม ซอร์ เค็ง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา และได้หารือร่วมกัน โดยไทยยินดีต่อความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศไม่เฉพาะด้านยาเสพติด แต่รวมถึงด้านความมั่นคงและมิติอื่นๆ โดยได้ยืนยันถึงนโยบายของรัฐบาลไทยภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ยินดีสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพและบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติให้กับกัมพูชา รวมถึงการสนับสนุนให้ความช่วยเหลือในด้านการฝึกอบรมและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในด้านต่างๆ ที่ทางกัมพูชาต้องการ ส่งเสริมกรอบความร่วมมือที่มีอยู่ อาทิ

camb6

หมู่บ้านคู่ขนานสีขาว สำนักงานประสานงานปราบปรามยาเสพติดชายแดนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพโครงการแม่น้ำโขงปลอดภัยของกัมพูชา รวมถึง ประเด็นความห่วงใยของกัมพูชาเกี่ยวกับแรงงานกัมพูชาในประเทศไทย โดยได้ให้ความมั่นใจกับกัมพูชาว่า นายกรัฐมนตรีของไทยกำชับให้มีการดูแลแรงงานต่างประเทศให้ดีที่สุดอยู่แล้ว โดย สมเด็จกลาโหม ซอร์ เค็ง ได้แสดงความขอบคุณต่อการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ของรัฐบาลไทย และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านการฝึกอบรมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ต่อไปในอนาคต

e-book-1-503x62