ครม.รับทราบแผนพัฒนาภาคใต้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำ

28 พ.ย. 2560 | 10:46 น.
ครม.สัญจร รับทราบแผนพัฒนาภาคใต้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำ-Rubber City-Smart City

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ประชุม ครม.(28พ.ย.60) รับทราบทิศทางการพัฒนาภาคใต้และจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์เสนอ เนื่องจากภาพรวมของพื้นที่ภาคใต้มีทรัพยากรที่หลากหลาย โดยเฉพาะทรัพยากรทางทะเล แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลก ระบบนิเวศน์ชายฝั่ง แหล่งทรัพยากรสัตว์น้ำ แหล่งปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ขณะที่มีความได้เปรียบด้านที่ตั้งภูมิศาสตร์สามารถเชื่อมโยงกับพื้นที่ BIMSTEC แต่ปัญหาเรื่องท่องเที่ยวยังมีการกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ทางทะเลบางแห่ง เกิดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง และการทำการเกษตรแบบดั้งเดิม

nat

ทั้งนี้ตามแผนฯ 12 กำหนดให้มีการพัฒนา 1.แหล่งท่องเที่ยวคุณภาพชั้นนำของโลก โดยจะมีการส่งเสริมธุรกิจต่อเนื่อง การส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ การท่องเที่ยวเชิงอาหาร การส่งเสริมเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น ภูเก็ต ให้เป็น Smart City การจัดให้มีระบบขนส่งมวลชนในเมืองใหญ่ 2.พัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราและปาล์มน้ำมันที่หาดใหญ่-สะเดา ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเชื่อมโยงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมยาง (Rubber City) 3.พัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรด้วยการผลิตแบบผสมผสาน 4.การพัฒนาโครงการสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนเลียบชายฝั่งทะเลอ่าวไทย สายชุมพร-สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช-สงขลา เพื่อเชื่อมกับถนนสาย royal coast ทางภาคกลาง, การพัฒนาเส้นทางรถไฟเพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวฝั่งอ่าวไทย-อันดามัน, การพัฒนาเส้นทางรถไฟเพื่อเชื่อมโยงด้านเหนือ-ใต้ของฝั่งอันดามัน

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

การประชุม กรอ.จังหวัดมีข้อเสนอหลายเรื่องที่สอดคล้องกับแผนงานที่กระทรวงคมนาคมกำลังจะดำเนินการ ได้แก่ การก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่ และช่วงหาดใหญ่-ปาดังเปซาร์, การก่อสร้างรถไฟสายสุราษฎร์ธานี-พังงา, ชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกที่ระนอง ซึ่งนายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงคมนาคมรับเรื่องไปพิจารณา โดยให้คำนึงถึงความเชื่อมโยงระหว่างภาค เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และความคุ้มค่าของการดำเนินงาน   นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาท่าเรือเชื่อมโยงโครงข่ายทางทะเล โดยพัฒนาท่าเรือสำราญฝั่งอ่าวไทยที่สมุย และฝั่งอันดามันที่กระบี่, การพัฒนาท่าเรือน้ำลึกสงขลา แห่งที่ 1-2 และให้สภาพัฒน์หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างสะพานเชื่อมสตูล-เปอร์ลิส

ส่วนการพัฒนาและปรับปรุงสนามบิน เพื่อเชื่อมโครงข่ายทางบกและทางรางนั้น นายกรัฐมนตรีให้จัดลำดับความสำคัญและพิจารณาความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของพื้นที่ในอนาคต

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว