รัฐสภาใหม่คืบหน้าร้อยละ 40.95 ตั้งเป้าก่อสร้างให้เสร็จปี 2562

03 พ.ย. 2560 | 08:35 น.
เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำคณะผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสื่อมวลชน ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยปัจจุบันมีความคืบหน้าในภาพรวมร้อยละ 40.95 ตั้งเป้าให้เสร็จปี 62

[caption id="attachment_227058" align="aligncenter" width="503"] นายสรศักดิ์ เพียรเวช นายสรศักดิ์ เพียรเวช[/caption]

-3 พ.ย.60- ณ สำนักงานโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ถนนทหาร แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ  นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำคณะผู้บริหาร และสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการมาติดตามความคืบหน้าในครั้งนี้ว่า ต้องการให้คณะผู้บริหาร และข้าราชการในแต่ละส่วนงานมาเห็นสถานที่ทำงานของตนเองในอนาคต เพื่อให้เกิดความผูกพันและความรักในองค์กร อีกทั้งได้กล่าวว่าขณะนี้มีความคืบหน้าของโครงการในภาพรวมร้อยละ 40.95 และตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีคณะกรรมการบริหารโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ที่มีการประชุมอย่างสม่ำเสมอ และลงพื้นที่จริงเพื่อตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง และเร่งรัดให้การก่อสร้างเสร็จทันตามกำหนดเวลา

นายพินิจ พูลเกิด ผู้จัดการสำนักงานที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2551 โดยสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ กำหนดระยะเวลาการก่อสร้าง จำนวน 900 วัน นับตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2556 สิ้นสุดวันที่ 24 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งได้มีการขอขยายเวลาการก่อสร้างครั้งที่ 1 จากสาเหตุการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า และปัญหาอุปสรรคจากงานดินเสาเข็มเจาะ จำนวน 387วัน ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 สิ้นสุดวันที่ 15 ธันวาคม 2558  ส่วนครั้งที่ 2 นั้น สาเหตุมาจากปัญหาเรื่องดินจากการก่อสร้างชั้นใต้ดินจำนวน 421 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2558 สิ้นสุด วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 อย่างไรก็ตาม ผู้รับจ้างทำงานมาแล้ว ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2560 จำนวน 1,607 วัน คงเหลือระยะเวลาทำงานจำนวน 101 วัน จากระยะเวลาทั้งหมด 1,708 วัน ซึ่งขณะนี้ ผู้รับจ้างอยู่ระหว่างขอขยายเวลาการก่อสร้างออกไปเป็นครั้งที่ 3 จากสาเหตุ การส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างส่วนที่ 4 ล่าช้า สำหรับความคืบหน้าในภาพรวมของการก่อสร้างปัจจุบัน มีผลงานสะสมร้อยละ 40.95 ส่วนงานโครงสร้างนั้นมีผลงานเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว

ด้านนายโชติจุฑา อาจสอน กรรมการบริหารที่ปรึกษาโครงการฯ กล่าวถึงสาเหตุความล่าช้าในการก่อสร้างว่า เป็นเหตุมาจากเรื่องดิน และการส่งมอบที่ดินล่าช้าของโรงเรียนโยธินบูรณะ จึงกระทบต่อการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง สำหรับเรื่องของแผนการสร้างโรงไฟฟ้านั้น  จากเดิมมีแผนที่จะสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยไว้ภายนอกอาคาร ซึ่งผู้ออกแบบได้ออกแบบอาคารเพื่อรองรับการจ่ายไฟจากการไฟฟ้านครหลวง ต่อมาการไฟฟ้านครหลวงแจ้งว่าไม่คุ้มค่าในการดำเนินการนี้ ดังนั้นจึงต้องมีการแก้ไขแบบเพื่อให้มีการจัดตั้งโรงไฟฟ้าให้ได้ตามแผนงาน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จตามกำหนด

นายสุชาติ โรจน์ทองคำ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ร่วมชี้แจงว่า ปัญหาความล่าช้าที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปัญหาจากงานเก่าที่ออกแบบเดิมงบประมาณ 17,000 ล้านบาท แต่ได้รับการอนุมัติงบประมาณ 12,000            ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอ จึงต้องนำงานในส่วนของระบบปรับอากาศ เทคโนโลยีสารสนเทศ และกระจก ออกมา เพื่อให้สามารถก่อสร้างในงบประมาณที่ได้รับได้ และทำให้ต้องของบประมาณเพิ่มเติมภายหลัง สำหรับเรื่องของการดูแลบำรุงรักษาอาคารนั้นก็ยังไม่ได้วางระบบ ซึ่งระบบต่าง ๆ ทั้ง ไฟฟ้า ประปา และระบบปรับอากาศ จะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ ในขณะที่บุคลากรของสำนักงานฯ ยังไม่สามารถรองรับในส่วนนี้ได้ ดังนั้น จึงต้องมีการวางแผนและเตรียมตัวในเรื่องต่าง ๆ

ทั้งนี้ ก่อนการเยี่ยมชมโครงการ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ขณะนี้ผู้รับจ้างก่อสร้างได้ขอขยายเวลาออกไปอีก 926 วัน แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับระยะเวลาดังกล่าว เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างมากเกินไป โดยได้มอบหมายให้ฝ่ายควบคุมงานศึกษาถึงความเหมาะสมว่าระยะเวลา ที่ต้องขยายออกไปนั้นควรเป็นเท่าไร และจะต้องดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 e-book