ผู้ค้าข้าวเตือน! “นายกฯ” รับมือราคาข้าวตกต่ำกลางเดือน ต.ค.

27 ส.ค. 2560 | 12:45 น.
อดีตนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย แนะนายกรัฐมนตรีเตรียมรับมือราคาข้าวตกต่ำ หลังทยอยออกสู่ตลาดช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ และ ไม่เห็นด้วยหากต้องแจกเงินให้เปล่าอ้างกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายปราโมทย์ วานิชชานนท์ อดีตนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยว่า ตลอดช่วงการใช้นโยบายรับจำนำข้าวและการประกันราคาตั้งแต่แต่ปี 2553 – 2560 ส่งผลให้รัฐบาลต้องสูญเสียเงินไปอุดหนุนรวมกว่า 7 แสนล้านบาท เฉพาะโครงการรับจำนำข้าวในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์เพียง 2 ปีครึ่ง ส่งผลให้โครงการฯขาดทุนกว่า 6 แสนล้านบาท ความเสียหายนอกจากคิดเป็นตัวเงินแล้ว ยังสร้างความเสียหายต่อคุณภาพข้าวถูกบิดเบือนจากการเร่งผลิตเข้าโครงการให้ทัน สะท้อนให้เห็นว่าโครงการับจำนำข้าวเป็นกับดักการพัฒนาชาวนาไทยตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาโดยรัฐบาลมักอ้างว่าเพื่ออุดหนุนด้านต้นทุนการผลิต และ กระตุ้นเศรษฐกิจ โดยไม่เคยมีแผนยกระดับคุณภาพการผลิตและคุณภาพชีวิตชาวนาไทยตรงจุด

นอกจากนี้ ในฤดูกาลผลิตข้าวปี 2560 จะเริ่มมีข้าวทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม จึงขอให้รัฐบาลเร่งวางแผนรับมือราคาข้าวตกต่ำซ้ำรอยเหมือนทุกปีที่ต้องหาเงินมาอุดหนุนราคาข้าว ทั้งที่ปริมาณผลผลิตที่ออกมาและที่เหลืออยู่ไม่ได้กดดันราคา โดยควรจะประกาศราคาข้าวขั้นต่ำรับซื้อจากชาวนาไว้ หากซื้อต่ำกว่าราคานี้จะไม่ออกใบอนุญาตส่งออกให้

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาสาเหตุส่วนหนึ่งที่ราคาข้าวที่ตกต่ำ เกิดจากความผิดพลาดของภาพถ่ายดาวเทียมที่คำนวณพื้นที่ผลผลิตข้าวออกมาในปริมาณมาก แต่ผลผลิตที่ออกมาจริงมีน้อย
นายปราโมทย์ ยังกล่าวอีกว่า แนวทางที่ได้ศึกษาและทำวิจัยรูปแบบที่ช่วยยกระดับรายได้ของชาวนาไทยได้ ต้องกำหนดยุทธศาสตร์ระยะ 3- 5 ปีที่มุ่งปฏิรูประบบการผลิตและการตลาดข้าวใหม่ จากแผนยุทธศาสตร์เดิมที่วางเป้าหมายฝ่ายรัฐอย่างเดียวจึงไม่เกิดผลสำเร็จ จากงานวิจัยจะต้องมุ่งใช้เทคโนโลยีพัฒนาพันธ์ข้าวเจาะตลาด เนื่องจากแนวโน้มความต้องการของโลกให้ความสำคัญเรื่องอาหารสุขภาพ ปลอดภัย และ รสชาด โดยนายกรัฐมนตรีควรเร่งจัดประชุมระดมความคิดของกลุ่มต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ชาวนา โรงสี พ่อค้าข้าว และ ฝ่ายรัฐบาล จัดทำแผนยุทธศาสตร์ข้าวที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายให้ได้ข้อสรุปภายใน 3 เดือน