“บิ๊กตู่”มอบ28รางวัลอุตสาหกรรมประจำปี2560

23 ส.ค. 2560 | 12:56 น.
นายกฯมอบ 28 ราย”รางวัลอุตสาหกรรม”ประจำปี 2560 เชิดชูเกียรติความมุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขัน เพื่อก้าวสู่ไทยแลนด์4.0 ย้ำต้องพัฒนานวัตกรรมและระบบบริหารจัดการที่ดี คู่ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม

วันนี้ (23 สิงหาคม 2560)   พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2560 (The Prime Minister’s Industry Award 2017) แก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมไทย จำนวน 28 บริษัท เพื่อเชิดชูเกียรติและประกาศเกียรติคุณให้กับผู้ประกอบการที่มีความมุ่งมั่น และตั้งใจในการประกอบกิจการ มีการพัฒนามาตรฐานการประกอบการในด้านต่าง ๆ อย่างมีศักยภาพ ยกระดับขีดความสามารถทั้งในด้านการผลิตและการแข่งขัน พร้อมก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม Thailand 4.0

6131_20170823013137

โอกาสนี้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวรายงานว่า ภาคอุตสาหกรรมมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เป็นหนึ่งในฟันเฟืองหลักที่มีบทบาทสำคัญในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาไปสู่ยุคอุตสาหกรรม Thailand 4.0 เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมายดังกล่าว ต้องมุ่งเน้นส่งเสริมและพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของไทยในทุกระดับให้มีคุณภาพ มีมาตรฐานสากล และมีขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ มีระบบบริหารจัดการที่ดี ควบคู่กับการส่งเสริมให้ตระหนักถึงความปลอดภัยและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยในปีนี้มีสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกและได้รับรางวัล รวมจำนวนทั้งสิ้น 28 ราย ประกอบด้วยรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม จำนวน 1 รางวัล และรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น แบ่งเป็น 7 ประเภท จำนวน 27 รางวัล จากจำนวนผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกทั้งสิ้น 144 ราย

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบรางวัลแก่สถานประกอบการที่ได้รับรางวัล และได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ประกอบการดังกล่าวว่า รางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ.2560 ถือได้ว่า เป็นรางวัลสูงสุดของวงการอุตสาหกรรมไทยที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ขณะนี้ ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วง Thailand 4.0 เพื่อสร้างห่วงโซ่ของอุตสาหกรรมไทยให้มีความเข้มแข็ง และส่งผลให้ทิศทางการพัฒนาประเทศก้าวสู่การเปลี่ยนแปลง จากการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์สู่สินค้านวัตกรรม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง โดยภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกและปฏิรูปกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยผู้ประกอบการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำให้ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินกิจการได้มีโอกาสหรือมีส่วนช่วยเหลือสังคม เช่น ด้านการสนับสนุนการศึกษาแก่เยาวชน เป็นต้น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ผู้ประกอบการได้มีบทบาทในการพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรของตนเองให้มีทักษะมากขึ้นด้านภาษาต่างประเทศ เพื่อจะได้เพิ่มขีดความมั่นคงตลอดจนความก้าวหน้าในอาชีพการงานรวมทั้งมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายอีกว่า ขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมได้พิจารณาเพิ่มโอกาสให้อุตสาหกรรมไทยขนาดเล็กและขนาดกลาง ได้รับโอกาสพิจารณารับรางวัลดังกล่าวมากขึ้นในปีต่อ ๆ ไป เพื่อสร้างความภาคภูมิใจ และเพิ่งพลังกายและพลังใจให้แก่องค์กรมีโอกาสต่อยอดและพัฒนากิจการของตนเองให้ก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยโดยรวมมีความเข้มแข็งอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลต่อไป