อิสราเอล หนุน นโยบายไทยแลนด์ 4.0

28 มิ.ย. 2560 | 10:43 น.
รองโฆษกรัฐบาล เผย นายกฯชวนนักธุรกิจอิสราเอลร่วมลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษแนวทางแดน-อีอีซี ยันรัฐบาลไทยยินดีรับฟังข้อเสนอแนะ การจัดทำเขตการค้าเสรีไทย-อิสราเอล คาดแล้วเสร็จปีนี้ ด้านเอกอัครราชทูตอิสราเอล ชี้ สนใจมีส่วนร่วมในนโยบายไทยแลนด์ 4.0

2

วันนี้ (28 มิถุนายน) ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายซีมอน โรเดด (H.E. Mr. simon Roded) เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ภายหลังการหารือ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยสรุปสาระสำคัญได้ว่า

ความสัมพันธ์ไทยและอิสราเอลมีมาอย่างยาวนานกว่า 63 ปี ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีการจัดงานฉลองครบรอบ 60 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์เมื่อปี 2557 โดยพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีเห็นว่า จากความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานทั้งสองฝ่ายยังสามารถเพิ่มพูนความร่วมมือด้านต่างๆได้อีกมากเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมความก้าวหน้าของอิสราเอลทางด้านเทคโนโลยี ด้านการเกษตร ด้านการแพทย์ ด้านการสื่อสาร การบริหารจัดการน้ำ อัญมณี และความเชี่ยวชาญในเรื่องด้านความมั่นคงและการต่อต้านการก่อการร้ายซึ่งสิ่งเหล่านี้ไทยประสงค์ได้รับการแลกเปลี่ยนความรู้และความเชี่ยวชาญจากอิสราเอลมากยิ่งขึ้น

สำหรับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตฯ ยินดีที่ไทยได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำเขตการค้าเสรีไทย-อิสราเอล ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2560 นายกรัฐมนตรีหวังว่าเอกอัครราชทูตฯจะได้ช่วยติดตามเรื่องนี้ต่อไปเพราะจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ

3

ขณะที่นายกรัฐมนตรีของไทยหวังว่า อิสราเอลจะช่วยสนับสนุนให้นักลงทุนอิสราเองเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นโดยขณะนี้รัฐบาลมีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน และโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) โดยหวังว่า นักลงทุนอิสราเอลจะสนใจเข้ามาลงทุนในโครงการดังกล่าว ซึ่งเอกอัครราชทูตฯได้แสดงความชื่นชมนโยบาย Thailand 4.0 ที่เน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยอิสราเอลสนใจที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในนโยบายนี้ของรัฐบาลไทย

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวอวยพรให้เอกอัครราชทูตฯ ประสบความสำเร็จในอนาคต และหวังว่า เอกอัครราชทูตฯ จะยังคงช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอิสราเอลและยังคงระลึกถึงอัธยาศัยและรอยยิ้มของคนไทยต่อไป และหากเอกอัครราชทูตฯ มีคำแนะนำใดๆ ขอให้ประสานมายังกระทรวงการต่างประเทศ รัฐบาลไทยยินดีรับฟัง