“ชาติไทยพัฒนา”ยื่นกรธ.จันทร์หน้า ต้าน“ไพรมารีโหวต”
“ชาติไทยพัฒนา”ชี้ไพรมารีโหวตกระทบสิทธิ 3 มิติ กระทบ”สิทธิพื้นฐานประชาชนทั่วไป-สิทธิของพรรค-ระบบการเมือง” ยื่นหนังสือกรธ. 26 มิ.ย.นี้
นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองต่างไม่เห็นด้วยกับระบบไพรมารีโหวต เพราะจะสร้างปัญหาในทางปฏิบัติ ว่า แม้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะตอบว่าสามารถทำได้ แต่ปัญหาจะอยู่ที่พรรคการเมืองที่ปฏิบัติไม่ได้ ซึ่งเห็นว่าไพรมารีโหวตน่าจะขัดรัฐธรรมนูญจริง โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี บอกว่าทำให้พรรคการเมืองเสียสิทธิในการกำหนดตัวผู้สมัคร ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้พรรคเป็นคนคัดตัวผู้สมัคร หน่วยคัดกรองไปอยู่ที่สาขาพรรค ถือว่าถูกหลักกระจายอำนาจ แต่การรับผิดชอบในนามพรรคก็ยังต้องมีอยู่ตามรัฐธรรมนูญ หากเกิดความผิดพลาดพรรคก็ต้องรับผิดชอบ
“พรรคชาติไทยพัฒนา เห็นว่าเรื่องนี้มีปัญหาทั้ง 3 มิติ คือกระทบต่อสิทธิพื้นฐานประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคในเขตเลือกตั้ง กระทบต่อสิทธิของพรรคที่มีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และกระทบต่อระบบการเมืองโดยรวม ดังนั้น หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาจะทำหนังสือส่งถึงประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ในวันจันทร์ที่ 26 มิ.ย.นี้” นายนิกร กล่าว
ส่วนกรณีที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่ผลักดันแก้ไขร่างพ.ร.บ.พรรคการเมือง ให้ใช้ระบบไพรมารีโหวตออกมาระบุหากไม่พร้อมก็ไม่ต้องเลือกตั้งนั้น นายนิกร กล่าวว่า ในฐานะสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และเป็นกรรมาธิการด้านการเมืองที่เป็นนักการเมืองโดยแท้จริง กับสปท.จากพรรคทวงคืนผืนป่าได้มีความเห็นแย้งและให้บันทึกการประชุมไว้แล้วเป็นลายลักษณ์อักษร
“สนช.ที่มาอ้างว่า สปท.เสนอมา เราเอาตามเขา ขอบคุณนักการเมืองที่เป็นผู้ใหญ่อยู่ในสปท.ที่ยอมสละเพื่อให้เกิดไพรมารีโหวต อย่างนี้ทำให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะในสปท.การเมือง ก็มีฝ่ายที่เป็นตัวแทนพรรคการเมือง คือผมกับจากพรรคทวงคืนผืนป่าเท่านั้น ออกมาพูดเช่นนั้นได้อย่างไร”
นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองต่างไม่เห็นด้วยกับระบบไพรมารีโหวต เพราะจะสร้างปัญหาในทางปฏิบัติ ว่า แม้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะตอบว่าสามารถทำได้ แต่ปัญหาจะอยู่ที่พรรคการเมืองที่ปฏิบัติไม่ได้ ซึ่งเห็นว่าไพรมารีโหวตน่าจะขัดรัฐธรรมนูญจริง โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี บอกว่าทำให้พรรคการเมืองเสียสิทธิในการกำหนดตัวผู้สมัคร ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้พรรคเป็นคนคัดตัวผู้สมัคร หน่วยคัดกรองไปอยู่ที่สาขาพรรค ถือว่าถูกหลักกระจายอำนาจ แต่การรับผิดชอบในนามพรรคก็ยังต้องมีอยู่ตามรัฐธรรมนูญ หากเกิดความผิดพลาดพรรคก็ต้องรับผิดชอบ
ส่วนกรณีที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่ผลักดันแก้ไขร่างพ.ร.บ.พรรคการเมือง ให้ใช้ระบบไพรมารีโหวตออกมาระบุหากไม่พร้อมก็ไม่ต้องเลือกตั้งนั้น นายนิกร กล่าวว่า ในฐานะสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และเป็นกรรมาธิการด้านการเมืองที่เป็นนักการเมืองโดยแท้จริง กับสปท.จากพรรคทวงคืนผืนป่าได้มีความเห็นแย้งและให้บันทึกการประชุมไว้แล้วเป็นลายลักษณ์อักษร
“สนช.ที่มาอ้างว่า สปท.เสนอมา เราเอาตามเขา ขอบคุณนักการเมืองที่เป็นผู้ใหญ่อยู่ในสปท.ที่ยอมสละเพื่อให้เกิดไพรมารีโหวต อย่างนี้ทำให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะในสปท.การเมือง ก็มีฝ่ายที่เป็นตัวแทนพรรคการเมือง คือผมกับจากพรรคทวงคืนผืนป่าเท่านั้น ออกมาพูดเช่นนั้นได้อย่างไร”