"สรรเสริญ"ยันแก้ก.ม.หลักประกันสุขภาพฯ ไม่กระทบสิทธิ-สวัสดิการดูแลประชาชน

22 มิ.ย. 2560 | 08:39 น.
“สรรเสริญ” โฆษกรัฐบาล ยัน แก้กฎหมายประกันสุขภาพฯ 14 ประเด็น ไม่กระทบสิทธิ หรือสวัสดิการดูแลประชาชน กล่าวยอมรับผิด กรณีที่ระบุว่า รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ซื้อยาลดราคาแล้วจะนำเงินมาหนุน NGO ชี้ ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ไขปมเวทีประชาพิจารณ์ป่วน วอนประชาชนเปิดใจรับฟังความเห็น

4
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 มิถุนายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่มีการคัดค้านการแก้ไข พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยระุบุว่า นายปิยสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายมีประเด็นที่แตกต่างจากฉบับเดิมอยู่ 14 ประเด็น ซึ่งไม่มีประเด็นใดส่งผลกระทบต่อสิทธิหรือสวัสดิการการดูแลประชาชนให้ลดน้อยถอยลง ประชาชนทุกคนยังจะได้รับการบริการจากรัฐเหมือนเดิมตามกฎกติกาของบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งใน 14 ประเด็นดังกล่าวนั้น มุ่งแก้ไขการบริหารจัดการขององค์กร ทั้งกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

ทั้งนี้ หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งตัวเองชี้แจงไปว่า เมื่อแก้ไขกฎหมายแล้วการซื้อยาของ สปสช.ในจำนวนมากจะได้ราคาลดลง โดยราคาที่ลดลงนั้นจะสนับสนุนบทบาทภารกิจของ NGO ที่ร้องขอมา ทำให้เกิดความเข้าใจผิดจนทำให้รุู้สึกว่า คำนี้ออกมาจากปากของ รมว.สาธารณสุขนั้น เป็นการจับประเด็นที่ผิดพลาดของตนเอง จึงขออภัยที่ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวด้วย พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

ส่วนกรณีที่เวทีประชาพิจารณ์ซึ่งมีปัญหานั้น พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า รมว.สาธารณสุขยังไม่ได้ระบุถึงแนวทางต่อไปว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ ซึ่งรัฐบาลเองก็ไม่ควรออกความคิดเห็นอะไรมาก เพราะจะกลายเป็นการตั้งธงไว้ก่อนจึงต้องรอให้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้คิดแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการของตัวเอง ซึ่งสุดท้ายแล้วรัฐบาลจะต้องฟังผลการทำประชาพิจารณ์ว่า ประชาชนทั่วประเทศมีความเห็นอย่างไรเพื่อนำมาปรับแก้ให้ตรงกับความต้องการของประชาชน และสามารถแก้ไขปัญหาได้จริง

2

ส่วนการล้มเวทีประชาพิจารณ์ในหลายภาคนั้น เวลานี้กำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้งตามโรดแม็พ การเปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นถือเป็นเรื่องสำคัญเป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตย แม้ว่ารัฐบาลนี้จะไม่ใช่รัฐบาลประชาธิปไตย แต่เราพร้อมจะรับฟังความเห็นจึงขอวิงวอนไปยังทุกภาคส่วนว่า เมื่อเปิดเวทีประชาพิจารณ์หรือให้ข้อมูลใดๆ ทุกคนมีสิทธิเห็นต่างสามารถนำเสนอได้ในมุมของตัวเอง แต่ไม่ควรจำกัดสิทธิของผู้อื่นและคิดว่าการล้มเวทีประชาพิจารณ์ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งจะดำเนินการโดยยึดบรรทัดฐานของกฎหมายเป็นหลัก