อดีตส.ส.ปชป.จี้รัฐทบทวน ก.ม.เดินเรือในน่านน้ำไทย

“นิพิฏฐ์” บี้ รัฐทบทวน พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ก่อนบังคับใช้ 22 มิ.ย. เสนอ ใช้ ม.44 แก้ เหตุ มีโทษสูง-ประมงชายฝั่งเดือดร้อน

 

[caption id="attachment_163353" align="aligncenter" width="335"] นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ[/caption]

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำทีมอดีต ส.ส.ภาคใต้ แถลงถึงความเดือดร้อนของประชาชนจากการบังคับใช้ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2560 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ ประชาชนที่ทำผิดจะมีโทษจำคุกและมีโทษปรับ โดยมีประชาชนประมาณ 11 ล้านคน จะได้รับผลกระทบจากการปลูกสร้างรุกล้ำ เลี้ยงปลาในกระชัง ซึ่งประชาชนกำลังรวมตัวกันเพื่อร้องเรียนให้รัฐบาลแก้ไข เพราะเป็นกฎหมายที่กระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชน เป็นตัวอย่างของความไม่รอบคอบและฝ่าฝืนวิถีชีวิตประชาชนโดยไม่มีการรับฟังความเห็นประชาชน หากอยู่ในภาวะปกติคงไม่สามารถออกกฎหมายแบบนี้ได้ ทั้งนี้เห็นว่าหากมีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขเร่งด่วน ก็ไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธีปกติได้ทัน จึงขอให้ใช้มาตรา 44 เพื่อให้เป็นคุณกับประชาชน เพราะหากกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้แม้ประชาชนจะดำเนินการตามกฎหมายด้วยการไปแจ้งก่อนกฎหมายบังคับใช้เพื่อขออนุญาตก็ต้องถูกปรับ และถ้าแจ้งหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ก็จะถูกปรับเป็นสองเท่า ด้วยอัตราค่าปรับที่สูงทำให้ประชาชนเดือดร้อนอย่างมาก

[caption id="attachment_163351" align="aligncenter" width="335"] นายสมบูรณ์ อุทัยเวียงกุล[/caption]

ด้านนายสมบูรณ์ อุทัยเวียงกุล อดีต ส.ส.ตรัง กล่าวว่า ปัญหาของกฎหมายฉบับนี้ใน 4 จังหวัดชายฝั่งทะเลจากอ่าวไทยถึงฝั่งอันดามัน ได้รับความเดือดร้อนทั้งสิ้น จึงขอเสนอถึงรัฐบาล 4 ข้อ คือ 1.ให้ขยายการบังคับใช้กฎหมายออกไปก่อน 2.กำหนดหลักเกณฑ์การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับสิ่งล่วงล้ำน่านน้ำที่ชัดเจนว่าบริเวณไหนชาวบ้านอยู่ได้และบริเวณไหนที่เป็นการล่วงล้ำ 3.ทบทวนนโยบายที่ขัดแย้งกัน เช่นเลี้ยงปลากระชัง ซึ่งกรมประมงส่งเสริม แต่กรมเจ้าท่าจับจะทำให้เดือดร้อน และ 4.ขอให้ทบทวนค่าปรับที่สูงถึงตารางเมตรละ 500-10,000 บาท เพื่อให้เหมาะสมกับความเป็นอยู่ของประชาชน