"ศรีวราห์" ตอกกลับ "วีระ" เตรียมฟ้องกลับเพียบ!

08 พ.ค. 2560 | 08:54 น.
วันที่ 8 พ.ค.60- พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) แถลงชี้แจงกรณีนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อให้ตรวจสอบว่าพล.ต.อ.ศรีวราห์สร้างถนนทับคลองน้ำสาธารณะ ที่ ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นมรดกตกทอดจากนายสุพีร์ รังสิพราหมณกุล บิดาของตน ซึ่งการก่อสร้างทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำมีมาตั้งแต่สมัยบิดาตนครอบครองที่ดิน หลังจากตนรับมรดกในปี 2557 เป็นที่ดินผืนใหญ่กว่า 100ไร่ ตรวจสอบไม่พบเอกสารเกี่ยวกับสร้างฝายนี้ ต่อมาปี2558 ตนจึงได้ดำเนินการประสานขออนุญาตกับอบต.ปากช่อง ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตามใบอนุญาตทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ฉบับที่2/2558 ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสัญจร

veera3
รองผบ.ตร. กล่าวว่า การที่นายวีระ ออกมาบอกว่าตนทำฝายน้ำล้นหรือสร้างถนนแล้วทำให้ประชาชนที่อยู่ด้านล่างไม่มีน้ำใช้ คงเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ฝายน้ำล้นที่อบต.อนุญาตให้สร้าง ก็เพื่อป้องกันน้ำป่าไหลเข้าในเมือง เเละไม่ไปท่วมที่ดินชาวบ้านในช่วงน้ำหลาก และเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง ทั้งนี้เนื่องจากลำน้ำเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน เมื่อก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดแล้วลงในพื้นที่ดังกล่าว สิ่งปลูกสร้างนั้นก็ตกเป็นของแผ่นดินโดยอัตโนมัติตามกฎหมาย และตนได้ลั่นวาจาเมื่อครั้งไปขออนุญาต ว่าให้ฝายที่สร้างขึ้นนี้ ตกเป็นของแผ่นดิน เเละอยู่ในความดูแลของ อบต.ปากช่อง
"การที่นายวีระ กล่าวหาเรื่องการสร้างฝายนี้ ก็เท่ากับว่ากล่าวหา อบต.ปากช่อง ไม่ใช่ตน ถ้าเป็นคนปากช่องคุณจะรู้ เวลามีน้ำแล้งก็จะแล้งมาก ไม่มีน้ำเลย ถ้าไม่มีฝายจะไม่มีน้ำ น้ำจะแห้งไปหมด เวลาหน้าน้ำมาน้ำก็จะไหล ไม่มีอะไรกั้น น้ำจะไหลเข้าบ้านเรือนก็เสียหาย การที่ อบต.ปากช่องพิจารณาให้สร้างฝายนี้ต้องพิจารณามาแล้วว่าเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ถ้าเกิดผลเสียหายคงไม่อนุญาต และยืนยันที่ดินผืนนี้เดิมนั้นเป็นที่ดินตาบอด และเมื่อสร้างฝาย ก็ยังเป็นที่ดินตาบอด เพราะที่ดินผืนติดกัน

ศรีวราห์-1
"ซึ่งเป็นของผมก็เป็นที่ดินตาบอดเหมือนกัน บอดเจอบอดยังก็บอด ผมไม่ได้ประโยชน์อะไรมากมายจากการสร้างฝายนี้ จึงไม่ได้เป็นไปตามที่นายวีระ กล่าวอ้างว่าผมได้ประโยชน์จากการสร้าง และไม่เคยได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ สมัยคุณพ่อสร้างก็ไม่มีใครร้องเรียน แต่ยอมรับว่าอยู่ในพื้นที่ดินตรงนี้ ตั้งแต่ผมอายุ 9 ขวบ คนแถวนั้นรู้ดีว่าเป็นที่ของใคร แต่ก็ไม่เคยมีการร้องเรียน ส่วนนายวีระอ้างว่าไม่มีใครกล้าร้องเรียนเพราะเป็นตำรวจระดับสูง ไม่มีเป็นความจริง ไม่เกี่ยวกัน ฝายนี้มีมาตั้งแต่ปี 2511 ตอนนั้นผมอายุแค่ 9 ขวบ เป็นด.ช.ศรีวราห์ อยู่เลย ถ้าไม่เชื่อเอาภาพถ่ายทางอากาศมาดูก็ได้ ที่สำคัญชาวบ้านทั่วไปในเขตพื้นที่ก็ทำกัน ถ้าอย่างนั้นชาวบ้านทำฝายเก็บกักน้ำเป็นแก้มลิงก็ต้องถูกดำเนินคดีหมดสิ ผมเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้รักษากฎหมาย ยืนยันไม่ทำผิดกฎหมายแน่นอน” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว

 
รองผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ นายวีระ ถูกตนดำเนินคดีตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ ในกรณีการชุมนุมใกล้เขตพระราชฐาน และวันนี้คนที่ถูกจับกุมดำเนินคดีพร้อมนายวีระในวันนั้น ก็มาร้องเรียนด้วย

 

“ไม่ทราบว่านายวีระ ไปกินดีหมีที่ไหนมา การกระทำของนายวีระและพวก ถือว่าผิดกฎหมายอาญา มาตรา 172 ฐานใส่ความพนักงานเจ้าหน้าที่ และมาตรา 326ว่าด้วยการหมิ่นประมาท วันนี้จะแจ้งความดำเนินคดีกลับ เพราะเห็นคลิปที่นายวีระ มาแสดงชี้ชัดว่าเป็นผม ทำให้ผมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้เสียหาย จึงจำเป็นจะต้องปกป้องตัวเอง ซึ่งนายวีระกับพวก เถรจิต หรือที่แปลว่า กลั่นแกล้ง ใส่ความ อย่างชัดเจน” พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าว

 
รองผบ.ตร. กล่าวด้วยว่าการที่นายวีระจะนำสื่อมวลชนไปดูพื้นที่ของตนก็ทำได้ ไปพิสูจน์เลย แต่การเข้าไปในพื้นที่ส่วนบุคคลก็ขอให้ดูกฎหมายด้วย ทำในกรอบกฎหมายแล้วกัน ส่วนกรณีที่นำโดรนขึ้นบินสำรวจเหนือที่ดินของตน ตนจะพิจารณาว่าถือว่าผิดกฎหมายฐานรุกล้ำน่านฟ้าของตนหรือไม่ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินผืนนี้ทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และยังมีการฝายน้ำล้นอีก 2จุด ที่ขออนุญาตถูกต้องแล้ว อยู่ระหว่างการก่อสร้าง นอกจากร้องทุกข์ดำเนินคดีนายวีระและพวกแล้ว ตนจะทำหนังสือรายงาน ชี้แจงถึงผบ.ตร. ตามขั้นตอนต่อไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้นำหลักฐานโฉนดที่ดินผืนดังกล่าว พร้อมเอกสารใบอนุญาตทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ( แบบ ท.28 )ที่ออกโดย อบต.ปากช่อง อนุญาตโดย นายกิตติพงษ์ รุ่งพิมาย นายช่างอบต.ปากช่อง พร้อมใบเสร็จรับเงินในการขอใบอนุญาตดังกล่าว มาแสดงต่อสื่อมวลชนด้วย