ส่องร่างพ.ร.บ.พรรคการเมือง ตีกรอบ 180 วันจัดทัพรับก.ม.ใหม่

20 เม.ย. 2560 | 04:00 น.
ในวันที่ 21 เมษายนนี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)จะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งมีหลายประเด็นถูกโจมตีอย่างหนักจากพรรคการเมืองและถามหาความเป็นไปได้ในเชิงปฏิบัติ ขณะที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ยังยืนหลักการเดิมเอาไว้เหนียวแน่น อาทิ กำหนดให้มีสมาชิกพรรคไม่น้อยกว่า 5,000 คนภายใน 1 ปี และต้องมีไม่น้อยกว่า 10,000 คนภายใน 4 ปีรวมถึงการเสียค่าสมัครและบำรุงพรรคการเมือง และจัดให้มีทุนประเดิมพรรค 1 ล้านบาท เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ในบทเฉพาะกาลของร่างกฎหมายฉบับนี้ กรธ.ได้ผ่อนผันเรื่องกรอบเวลาเอาไว้หลายเรื่อง ดังเช่นกรณีมีสมาชิกพรรคไม่ถึงเกณฑ์ให้ดำเนินการให้มี 500 คนภายใน 180 วันนับแต่วันที่กฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับและจัดให้สมาชิกพรรคไม่น้อยกว่า 500 คนชำระค่าบำรุงพรรคสำหรับปีที่กฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับภายในเวลา 180 วันนับแต่วันที่กฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับและแจ้งให้คณะกรรมการทราบพร้อมด้วยหลักฐานแสดงการชำระค่าบำรุงพรรคการเมืองสำหรับปีที่กฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับภายใน 50 วันนับแต่วันพ้นระยะเวลาชำระค่าบำรุงพรรคการเมืองดังกล่าวสมาชิกที่ชำระค่าบำรุงพรรคการเมืองดังกล่าวหากยังค้างค่าบำรุงพรรคการเมืองสำหรับปีก่อนๆ อยู่เป็นจำนวนเท่าไรให้เป็นอันพับไป

และจัดให้สมาชิกพรรคชำระเงินค่าบำรุงพรรคการเมืองให้ได้จำนวนไม่น้อยกว่า 5,000 คนภายใน 1 ปีและให้ได้จำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 คนภายใน 4 ปีนับแต่วันที่กฎหมายใช้บังคับเมื่อพ้นระยะเวลา 4 ปีแล้วให้สมาชิกภาพของสมาชิกที่มิได้ชำระค่าบำรุงพรรคเป็นอันสิ้นสุดลงให้นายทะเบียนสมาชิกแจ้งให้นายทะเบียนทราบตามรายการและวิธีการที่นายทะเบียนกำหนดและให้จัดประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขข้อบังคับและจัดทำคำประกาศอุดมการณ์ทางการเมือง และนโยบายของพรรคให้ถูกต้องตามที่บัญญัติไว้ในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ และเลือกหัวหน้าพรรค เหรัญญิกนายทะเบียนสมาชิกและกรรมการบริหารอื่นของพรรคตามข้อบังคับของพรรคการเมืองที่แก้ไขใหม่ภายใน 180 วันนับแต่วันที่กฎหมายนี้ใช้บังคับ

รวมถึงจัดให้มีการประชุมพรรคโดยดำเนินการตามข้อบังคับของพรรคที่ใช้บังคับอยู่แล้ว กำหนดให้ต้องมีหัวหน้าสาขาพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 4 สาขาและมีสมาชิกของพรรคการเมืองที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดแต่ละจังหวัดๆละไม่น้อยกว่า 3 คน สำหรับจังหวัดที่มีสมาชิกตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเข้าร่วมประชุมและมีสิทธิลงคะแนนเสียงในการแก้ไขข้อบังคับและเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคด้วยและให้จัดตั้งสาขาพรรค และตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดให้ครบถ้วนตามกฎหมายฉบับนี้ ภายใน 180 วันนับแต่วันที่กฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับ เป็นต้น

ทั้งนี้ การดำเนินการต่างๆข้างต้น พรรคการเมืองอาจทำหนังสือขอขยายเวลาออกไปตามที่จำเป็นก็ได้แต่เมื่อรวมแล้วต้องไม่เกิน 3 ปีนับแต่วันสิ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว และเมื่อครบระยะเวลาที่ได้รับการขยายแล้วพรรคการเมืองใดยังมิได้ดำเนินการให้แล้วเสร็จให้พรรคการเมืองนั้นสิ้นสภาพไปทั้งนี้ ในระหว่างเวลาที่พรรคการเมืองยังปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ข้างต้น เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการตั้งสาขาพรรคการเมืองไม่ครบถ้วนจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ได้

ส่วนการยื่นขอขยายระยะเวลาดังกล่าว ให้ทำเป็นหนังสือยื่นต่อนายทะเบียนก่อนสิ้นสุดระยะเวลาที่จะต้องปฏิบัติและให้นายทะเบียนมีอำนาจอนุญาตให้ขยายเวลาได้แต่ในกรณีที่จะไม่อนุญาตให้เสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัย
การวินิจฉัยเรื่องใดๆ ที่มีผลกระทบต่อพรรคการเมืองให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการที่จะวินิจฉัยในกรณีที่พรรคการเมืองไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยได้ภายใน 60 วันนับแต่วันได้รับทราบคำวินิจฉัยของคณะกรรมการส่วนการเรียกเก็บค่าบำรุงพรรคการเมืองสำหรับปีแรกที่กฎหมายนี้ใช้บังคับพรรคการเมืองจะเรียกเก็บต่ำกว่าอัตราที่กำหนดก็ได้แต่ต้องไม่น้อยกว่า 50 บาท เป็นต้น

ท้ายที่สุดแล้ว สนช.จะปรับแก้ไขหน้าตาของร่างกฎหมายพรรคการเมืองให้ออกมาเช่นไร ภายใน 60 วันคงได้รู้กัน...

[caption id="attachment_141715" align="aligncenter" width="503"] ส่องร่างพรบ.พรรคการเมือง ตีกรอบ180วันจัดทัพรับก.ม.ใหม่ ส่องร่างพรบ.พรรคการเมือง ตีกรอบ180วันจัดทัพรับก.ม.ใหม่[/caption]

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,254 วันที่ 20 - 22 เมษายน พ.ศ. 2560