"บทสวดรัตนสูตร" เติมกำลังใจฝ่าวิกฤติโควิด-19

07 พ.ค. 2564 | 09:15 น.

ฝ่าวิกฤติโควิด-19 วัดทุกแห่งทั่วไทยร่วมสร้างขวัญกำลังใจ เสริมสิริมงคลให้ประเทศ สวดมนต์รัตนสูตร 11 พ.ค.นี้

รัฐบาล อัญเชิญ "บทสวดรัตนสูตรมาเจริญพระพุทธมนต์ ท่ามกลางสถานการณ์โควิดรอบนี้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ยังคงพุ่งไม่หยุด นับตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 2564 เป็นต้นมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ขยับจากหลักสิบหลักร้อยทะยานขึ้นเป็นหลักพันคนต่อวันติดต่อกันเป็นวันที่สิบห้า ยังคงส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในปัจจุบัน ทั้งความเป็นอยู่และสภาพจิตใจ ที่ผ่านมาทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่างระดมสมองและสรรพกำลังที่มีอยู่ ทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อก้าวข้ามสถานการณ์นี้ไปให้ได้

ล่าสุด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 แจ้งไปยังกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ทุกรูปซึ่งเห็นพ้องกันให้วัดไทยทั่วประเทศ และวัดไทยในต่างแดน อัญเชิญ "บทสวดรัตนสูตร" มาเจริญพระพุทธมนต์ในวันที่ 11 พ.ค. 2564 เวลา 17.00 น. เพื่อความเป็นสิริมงคลและร่วมสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวไทยอีกแรง โดยให้ทุกวัดทั่วประเทศประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตามวัน เวลา ดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน สำหรับวัดไทยในต่างแดนให้พิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสม

ส่วนกลาง กำหนดให้วัดที่มีการถ่ายทอดสด ประกอบด้วย วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดไตรมิตรวิทยาคม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

ส่วนภูมิภาค กำหนดให้วัดในนามเขตปกครองหนต่าง ๆ ที่มีการถ่ายทอดสด ประกอบด้วย หนกลางที่วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุทธยา หนเหนือ ที่วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ หนตะวันออก ที่วัดพระธาตุเชิงชุม จ.สกลนคร และหนใต้ ที่วัดกะพังสุรินทร์ จ.ตรัง 

 

ก่อนจะถึงวันนั้น ฐานเศรษฐกิจ พาไปรู้จักตำนานและที่มาของบทสวดรัตนสูตร พร้อมชวนคนไทยมาร่วมสวดบทนี้กัน

ตามความเชื่อในสมัยโบราณกล่าวกันว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพระสูตร รัตนสูตร นี้ขึ้นมาเพื่อขจัดปัดเป่าความอดอยาก ภัยจากโรคระบาด และภัยจากอมนุษย์เบียดเบียน ชาวพุทธจึงถือเป็นธรรมเนียมสวดพระสูตรนี้เพื่อขจัดโรคภัย เช่น โรคห่า เป็นต้น ทั้งยังมีความเชื่อว่า การสาธยายรัตนสูตร หรือ รัตนปริตร จะทำให้ได้รับความสวัสดี และพ้นจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง

อีกหนึ่งตำนานเล่าว่า "รัตนสูตร" เป็นพระสูตรที่พระอานนท์เรียนจากพระพุทธองค์โดยตรงเพื่อใช้สวดขจัดปัดเป่าภัยพิบัติที่เกิดกับชาวกรุงเวสาลีซึ่งพระพุทธองค์ทรงแนะนำให้พระอานนท์น้อมเอาคุณของพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทำสัจกิริยาให้เกิดเป็นอานุภาพขจัดปัดเป่าภัยพิบัติทั้งหลาย

ต่อมาบทสวดนี้ได้กลายเป็นแบบอย่างในการทำน้ำพระพุทธมนต์สำหรับพระสงฆ์สาวกสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน โดยทุกครั้งที่ทำน้ำพระพุทธมนต์จะมีการสวดบท “รัตนสูตร” เพื่อขจัดภัย 3 ประการ ตามที่ปรากฏในพระสูตร คือ ข้าวยากหมากแพง (ทุพภิกขภัย), ภูตผีปีศาจทำอันตราย (อมนุสภัย) และโรคภัยไข้เจ็บ (โรคภัย) ให้อันตรธานไป

เนื้อความ บทสวดรัตนสูตร แบ่งออกเป็น 3 ช่วง

ช่วงแรก เป็นการแนะนำให้เหล่าภูตทั้งหลายได้อนุโมทนาบุญกุศลที่หมู่มนุษย์อุทิศให้ และเมื่ออนุโมทนาแล้วขอให้เกิดความเมตตาทำการรักษามนุษย์ทั้งหลาย

ช่วงที่ 2 เป็นการอ้างคุณพระรัตนตรัยเป็นสัจวาจาให้เกิดความสวัสดี

ช่วงสุดท้าย เป็นคำกล่าวของท้าวสักกะ ที่ผูกขึ้นเป็นคาถาพรรณนาคุณพระรัตนตรัยเป็นสัจวาจาให้เกิดความสวัสดีเช่นกัน

บทสวดรัตนสูตร 

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข

สัพเพ วะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ

อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง 

ตัสมา หิ ภูตา นิสาเมถะ สัพเพ 

เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ 

ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลิง 

ตัสมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา ฯ 

(**ซ้ำ) ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา 

สัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง 

นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ 

อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง 

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ 

ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง, ยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโต 

นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ 

อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง 

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ 

ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง 

สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ 

สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ 

อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง 

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ 

เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัตถา 

จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ 

เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา 

เอเตสุ ทันนานิ มะหัปผะลานิ 

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง 

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุฯ 

คำแปล บทสวดรัตนสูตร

เหล่าภูตทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี 

ขอหมู่ภูตทั้งปวงนั้น จงเป็นผู้มีใจดีเถิด และเชิญฟังคำสดุดีพระรัตนตรัย อันข้าพเจ้ากล่าว โดยเคารพเถิด

ดูก่อนภูตทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายทั้งปวงจงฟังข้าพเจ้า

ขอท่านทั้งหลาย จงกระทำเมตตาจิต ในประชาชาวมนุษย์เถิด

ซึ่งเขาทั้งหลาย ทำเทวตาพลีอยู่ ทั้งกลางวันกลางคืน

เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลาย จงเป็นผู้ไม่ประมาท ช่วยคุ้มครองรักษาเขาเหล่านั้นด้วยเถิด

ทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้ หรือในโลกอื่น 

หรือรัตนะอันใดอันสูงค่า ในสรวงสวรรค์ 

ทรัพย์หรือรัตนะนั้นๆ ที่จะเสมอด้วยพระตถาคตเจ้า ไม่มีเลย 

ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระพุทธเจ้า 

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

พระศากยมุนีเจ้า ทรงมีพระหฤทัยดำรงมั่น ได้บรรลุธรรมอันใด เป็นที่สิ้นกิเลส เป็นที่สิ้นราคะ เป็นอมตะอย่างแท้จริง 

สิ่งใดๆที่เสมอด้วยพระธรรมนั้น ย่อมไม่มี

ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระธรรม

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดทรงสรรเสริญสมาธิว่าเป็นธรรมอันสะอาด 

บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวว่าสมาธิเป็นคุณธรรมอันให้ผลโดยลำดับสม่ำเสมอ 

คุณธรรมอื่น ที่เสมอด้วยสมาธินั้น ย่อมไม่มี 

ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระธรรม 

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด 

บุคคลเหล่าใด นับเรียงองค์ได้เป็น 8 

นับเป็นคู่ได้ 4 คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว 

บุคคลเหล่านั้น เป็นสาวกของพระสุคตเจ้า เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน 

ทานทั้งหลาย ที่บุคคลถวายในท่านเหล่านั้น ย่อมมีผลเป็นอันมาก 

ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์ 

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด