“ตร.สอบสวนกลาง”รวบผู้ค้าอาวุธสงคราม-ยึดปืน-กระสุนอื้อ

22 ม.ค. 2564 | 11:41 น.

“สอบสวนกลาง”รวบผู้ค้าปืนสงคราม ยึดปืน 12 กระบอก กระสุนเฉียดพันนัด ตามแผนป้องปรามอาชญากรรม ช่วงการเลือกตั้งท้องถิ่น

วันที่ 22 มกราคม ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก.พร้อม พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.อก.บช.ก.แถลงการจับกุมนายมานะ หรือเบิร์ด (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาค้าอาวุธปืนสงคราม พร้อมของกลางปืนยาว 7 กระบอก ปืนสั้น 5 กระบอก และเครื่องกระสุนรวม 915 นัด


พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรม “แผนพิทักษ์ราษฎร์ ป้องภัย ห่วงใยประชาชน” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงสั่งให้กวาดล้างอาวุธปืนสงครามในช่วงการเลือกตั้งท้องถิ่น ก่อนสืบสวนติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี โดยได้ติดต่อล่อซื้อก่อนขยายผลรวบรวมหลักฐานขอหมายค้นศาลอาญาปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุด

                                           ผบช.ก.แถลงข่าวการจับกุมผู้ค้าปืนสงคราม พร้อมกระสุนปืน

 

จุดแรก บ้านของนายมานะ เลขที่ 35 ซอยรามอินทรา 8 แยก 22 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ยึดปืนสั้นพร้อมซองกระสุน 2 กระบอก ปืนยาวพร้อมซองกระสุน 2 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ 309 นัด

 

จุดที่ 2 บ้านของนายอธิพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี เลขที่ 999/10 ซอย 1 หมู่บ้านมั่นคง หมู่ 2 ตําบลบางโปรง อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ยึดปืนพกสั้นพร้อมซองกระสุน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ 62 นัด

 

จุดที่ 3 บ้านของนายภานุพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี เลขที่ 554/161 หมู่บ้านลลิล ซอยกาญจนาภิเษก 36 แขวงและเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ยึดปืนยาวไรเฟิล 2 กระบอก ปืนพกสั้นพร้อมซองกระสุน 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ 241นัด ท่อเก็บเสียงปืนไรเฟิล 1 อัน เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย (อาวุธสงคราม),พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต” จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้ซื้ออุปกรณ์ปืนแยกชิ้นจากอินเตอร์เน็ตมาประกอบเป็นปืนทั้งกระบอกก่อนส่งขายอีกทอด เนื่องจากมีความชอบส่วนตัวอยู่แล้ว โดยปืนยาวขายราคากระบอกละ 3.5 หมื่นบาท ปืนสั้น 2 หมื่นบาท

 

จากนั้นจึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี และขยายผลตรวจสอบแผนประทุษกรรมว่าปืนเหล่านี้เคยถูกใช้ก่อเหตุมาก่อนหรือไม่ และหาแหล่งที่มาต่อไป เนื่องจากปืนที่ยึดได้ไม่มีเลขทะเบียน