“นิพนธ์”สั่งด่วนช่วยน้ำท่วมภาคใต้ 5 จังหวัด

01 ธ.ค. 2563 | 12:16 น.

“นิพนธ์”สั่งด่วนช่วยน้ำท่วมภาคใต้ 5 จังหวัด เร่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอันตราย พร้อมประสานท้องถิ่น ดูแลอาหาร-ความเป็นอยู่ กำชับ ทุกฝ่ายเตรียมพร้อม 24 ชม.

วันนี้(1 ธ.ค.63) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในขณะนี้มีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ 5 จังหวัด ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช พัทลุง  สงขลา นราธิวาส และสุราษฎร์ธานี ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 33,000 ครัวเรือน

 

จังหวัดนครศรีธรรมราช มีสถานการณ์ใน 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด อำเภอเมือง อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอพระพรหม อำเภอท่าศาลา อำเภอทุ่งสง อำเภอพิปูน อำเภอนาบอน อำเภอลานสกา อำเภอสิชล และอำเภอจุฬาภรณ์  

 

จังหวัดพัทลุง มีสถานการณ์ใน 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอป่าบอน อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอกงหรา อำเภอตะโหมด อำเภอควนขนุน อำเภอเขาชัยสน  อำเภอปากพะยูน และอำเภอป่าพยอม

 

จังหวัดสงขลา มีสถานการณ์ใน 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอจะนะ อำเภอสะเดา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอควนเนียง อำเภอสิงหนคร อำเภอนาหม่อม และอำเภอรัตภูมิ

 

จังหวัดนราธิวาส มีสถานการณ์ใน 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอจะแนะ อำเภอระแงะ อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอบาเจาะ อำเภอเมือง อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง อำเภอยี่งอ และอำเภอสุไหงปาดี

 

จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสถานการณ์ใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอนสัก  และอำเภอกาญจนดิษฐ์

 

 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) และผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ให้เร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงที่มีน้ำท่วมสูง และพื้นที่ที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว

 

ขณะเดียวกัน ได้ให้เตรียมความพร้อมดูแลพี่น้องประชาชนในจุดอพยพที่ปลอดภัย ซึ่งในส่วนนี้ให้ประสานองค์กรปกครองท้องถิ่นดูแลความเป็นอยู่ชั่วคราวแก่พี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด เช่น อาหาร น้ำดื่มที่สะอาด และดูแลเรื่องการเจ็บป่วยและอันตรายโดยรอบ โดยขอให้ทุกฝ่ายต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพในการช่วยเหลือ

 

“ผมได้เน้นย้ำมาโดยตลอดว่า ต้องดูแลรักษาชีวิตประชาชนเป็นอันดับแรก เพราะการชดเชยเยียวยาที่ทำกิน ซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัยนั้นมีระเบียบกระทรวงการคลังฯไว้บรรเทาความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ชีวิตคนเมื่อสูญเสียไปแล้วไม่สามารถเอากลับคืนได้"

 

นอกจากนี้ รมช.มหาดไทย ยังได้สั่งการ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยได้รายงานสถานการณ์ความรุนแรงและประสานการช่วยเหลือเพิ่มเติมมายังกรม ปภ. เพื่อตรียมการเครื่องมือและถุงยังชีพเพื่อนำไปดูแลพี่น้องประชาชน โดยถุงยังชีพที่แต่ละจังหวัดหวัดรายงานเพื่อขอรับนั้น ขณะนี้ได้เตรียมการไปทั้งสิ้นกว่า 10,000 ชุดแล้ว และจะเร่งนำไปดูแลพี่น้องประชาชนในทันที