วันนี้(1 ธ.ค.63) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในขณะนี้มีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ 5 จังหวัด ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา นราธิวาส และสุราษฎร์ธานี ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 33,000 ครัวเรือน
จังหวัดนครศรีธรรมราช มีสถานการณ์ใน 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด อำเภอเมือง อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอพระพรหม อำเภอท่าศาลา อำเภอทุ่งสง อำเภอพิปูน อำเภอนาบอน อำเภอลานสกา อำเภอสิชล และอำเภอจุฬาภรณ์
จังหวัดพัทลุง มีสถานการณ์ใน 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอป่าบอน อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอกงหรา อำเภอตะโหมด อำเภอควนขนุน อำเภอเขาชัยสน อำเภอปากพะยูน และอำเภอป่าพยอม
จังหวัดสงขลา มีสถานการณ์ใน 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอจะนะ อำเภอสะเดา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอควนเนียง อำเภอสิงหนคร อำเภอนาหม่อม และอำเภอรัตภูมิ
จังหวัดนราธิวาส มีสถานการณ์ใน 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอจะแนะ อำเภอระแงะ อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอบาเจาะ อำเภอเมือง อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง อำเภอยี่งอ และอำเภอสุไหงปาดี
จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสถานการณ์ใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอนสัก และอำเภอกาญจนดิษฐ์
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) และผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ให้เร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงที่มีน้ำท่วมสูง และพื้นที่ที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว
ขณะเดียวกัน ได้ให้เตรียมความพร้อมดูแลพี่น้องประชาชนในจุดอพยพที่ปลอดภัย ซึ่งในส่วนนี้ให้ประสานองค์กรปกครองท้องถิ่นดูแลความเป็นอยู่ชั่วคราวแก่พี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด เช่น อาหาร น้ำดื่มที่สะอาด และดูแลเรื่องการเจ็บป่วยและอันตรายโดยรอบ โดยขอให้ทุกฝ่ายต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพในการช่วยเหลือ
“ผมได้เน้นย้ำมาโดยตลอดว่า ต้องดูแลรักษาชีวิตประชาชนเป็นอันดับแรก เพราะการชดเชยเยียวยาที่ทำกิน ซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัยนั้นมีระเบียบกระทรวงการคลังฯไว้บรรเทาความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ชีวิตคนเมื่อสูญเสียไปแล้วไม่สามารถเอากลับคืนได้"
นอกจากนี้ รมช.มหาดไทย ยังได้สั่งการ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยได้รายงานสถานการณ์ความรุนแรงและประสานการช่วยเหลือเพิ่มเติมมายังกรม ปภ. เพื่อตรียมการเครื่องมือและถุงยังชีพเพื่อนำไปดูแลพี่น้องประชาชน โดยถุงยังชีพที่แต่ละจังหวัดหวัดรายงานเพื่อขอรับนั้น ขณะนี้ได้เตรียมการไปทั้งสิ้นกว่า 10,000 ชุดแล้ว และจะเร่งนำไปดูแลพี่น้องประชาชนในทันที