เชียงราย"ปลอดภัย"เดินหน้าบิ๊กอีเวนต์ท่องเที่ยว

ชาวเชียงรายเฮ ผู้ประกอบการเชื่อคุมได้ ไม่กระทบงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หลังผลตรวจ 4 สาวเสี่ยงเป็นลบไม่ติดเชื้อ  เอกชนยอมรับครึ่งเดือนแรกธันวาคม มียกเลิกกรุ๊ปทัวร์แล้วนับ 1,000 ห้อง  เดินหน้าบิ๊กอีเวนต์ท่องเที่ยว โฮมสเตย์ดอยผาฮี้พร้อมคืนมัดจำ 

ผู้สื่อข่าว "ฐานเศรษฐกิจ" รายงานจากจังหวัดเชียงราย ว่า หลังมีการสกัดจับ 4 สาว ซึ่งภายหลังพบว่าเป็น 3 สาวกับอีก 1 สาวเพศทางเลือก ซึ่งได้มีการโพสต์ในเฟชบุ๊คว่า ลักลอบข้ามแดนกลับเข้ามาในประเทศ โดยไม่ผ่านการกักตัว 14 วันตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากนั้นพากันไปท่องเที่ยวที่อำเภอแม่สาย ไปสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่ง อาทิ ไร่ชาฉุยฟง อำเภอแม่จัน ทำให้เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ไร่ชาฉุยฟงต้องปิดไร่ 1 วันเพื่อทำการบิ๊กคลีนนิ่งสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามล่าสุดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข อำเภอแม่สาย ได้ประกาศยืนยันออกมาแล้วว่า ผลตรวจร่างกายของทั้ง 4 คนมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบ ไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 แต่ยังต้องอยู่ระหว่างการกักตัว (Local Quarantine) เป็นเวลา 14 วัน
    

เมื่อช่วงเช้าของวันนี้(1ธ.ค.) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย (สทท.ชร.) ที่มีนายอภิชา ตระสินธุ์ เป็นประธาน ได้ส่งหนังสือเชิญทางอิเล็กทรอนิกส์  เรียกประชุมด่วนคณะกรรมการและหน่วยงานที่ข้องกับการท่องเที่ยว ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ ผู้แทนการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย ผู้แทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย ที่ปรึกษาและคณะกรรมการ สทท.ชร. นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดเชียงราย และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบการยกเลิกของนักท่องเที่ยว 
    

โดยมีรายงานว่ามีสถานประกอบการโรงแรม รีสอร์ท และที่พักประเภทต่าง ๆ จำนวนกว่า 38 แห่ง มีจำนวนห้องพักที่ถูกจองไว้ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-กลางเดือนธันวาคม ยกเลิกการจองนับ 1,000 ห้อง อันเป็นผลสืบเนื่องจากการพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่จังหวัดเชียงราย อย่างไรก็ตาม ประธาน สทท.ชร. ยืนยันว่าผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท และที่พักประเภทต่าง ๆ ให้ความร่วมมือกับภาครัฐติดตั้งระบบการป้องกันโควิด-19 ที่เป็นมาตรฐานสากล ขอให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัย 
    

แหล่งข่าวผู้ประกอบการโรงแรมแห่งหนึ่ง เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า คงต้องทำใจยอมรับว่ามีความตื่นตระหนกในกลุ่มนักท่องเที่ยว  จนนำมาซึ่งการยกเลิกการจองห้องพัก โดยรวม ๆ แล้วน่าจะมากกว่า 1,000 ห้อง แต่เรื่องจริงก็คือทางจังหวัดโดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงรายควบคุมสถานการณ์นี้เอาไว้ได้ตั้งแต่ต้น มีการติดตามบุคคลใกล้ชิด สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ 2 ราย ให้เข้ามาสู่ระบบการคัดกรองสุขภาพ และการการกักตัว (Local Quarantine) เป็นระยะเวลา 14 วัน ได้จนครบทุกคนแล้ว 
    

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดต่อด่วน เชียงราย ตามหาคนนั่งรถตู้คันเดียวกับหญิงติดเชื้อโควิด

ท่องเที่ยวเชียงรายประชุมด่วนรับมือ"ตื่นโควิด

ดังนั้น กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอื่น ๆ ภายในจังหวัดยังคงดำเนินไปตามปกติ  เพียงแต่อาจจะต้องมีการเข้มงวดมาตรการทั่ว ๆ ไปมากขึ้นตามหลักไม่ประมาท-การ์ดไม่ตก โจทย์สำคัญคือจะกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวให้กลับมาได้อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้องค์กรภาคเอกชนไม่ว่าจะเป็นหอการค้าจังหวัดเชียงราย สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานรัฐที่สำคัญคือ การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย และ ททท.สำนักงานเชียงราย จะต้องเร่งการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น
    

“กิจกรรมเคาท์ดาวน์ 2 แผ่นดินที่อำเภอแม่สาย ซึ่งทุกปีได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ให้จัดขึ้นที่บริเวณหน้าด่านพรมแดน สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 เท่าที่ฟังจากผู้ประกอบการทางแม่สาย เห็นว่าปีนี้สะพานคงยังไม่เปิด การจัดงานจึงน่าจะออกมาในรูปแบบของการจัดกันเป็นการภายในของแม่สาย  ส่วนกิจกรรมช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ซึ่งมีแผนจะมีกิจกรรมใหญ่ในหลาย ๆ พื้นที่นั้น ตอนนี้ต้องรอดูสถานการณ์อีกสักระยะหนึ่งก่อน ว่าจะดำเนินการตามแผนเดิมหรือไม่ แต่คาดว่าน่าจะไม่มีปัญหา สถานการณ์โควิด 19 ที่จังหวัดเชียงราย คาดว่าหลังจากกลางเดือนธันวาคมไปแล้ว (พ้นช่วงการกักตัว14วันของผู้สัมผัส-ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ) น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ ซึ่งทุกฝ่ายต่างก็หวังว่าน่าจะทำให้ฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง” แหล่งข่าวผู้ประกอบการโรงแรมคนเดิม ระบุ
    

ด้านเพจเฟชบุ๊ค ดอยผาฮี้ คอฟฟี่ แอนด์ฌฮมสเตย์ ได้ประกาศในเพจว่า ยินที่จะคืนเงินมัดจำเต็มจำนวน หรือสารถเลื่อนวันพักได้ตามความประสงค์ ขอให้แจ้งประสานงานติดต่อผ่านทางช่องทางไลน์ที่ใช้จองที่พักได้เลย ทั้งนี้ทางสถานประกอบการเข้าใจในสถานการณ์โควิดที่อำเภอแม่สาย ซึ่งเป็นเรื่องสุดวิสัย ซึ่งนักท่องเที่ยวอาจจะไม่มีความมั่นใจในการเดินทางมาท่องเที่ยว