"หมอธีระ" เผย ผู้เสียชีวิตจากโควิดทั่วโลกวันเดียวยอดพุ่ง 1.2 หมื่นคน

21 พ.ย. 2563 | 08:57 น.

"หมอธีระ" ระบุการกักตัว 14 วัน ตรวจคัดกรอง 2 ครั้ง เป็นหัวใจสำคัญในการป้องกัน "โควิด -19" พร้อมเผยยอดผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตทั่วโลกวันเดียวทุบสถิติ 12,020 คน สูงสุดเท่าที่เคยมีมา

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2563  รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat "เกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกโดยมีเนื้อหาใจความว่า 


ถ้าเราตามดูอย่างใกล้ชิด มาตรการให้ตรวจโควิดก่อนบินมา 72 ชั่วโมงนั้น ไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงเท่าใดนัก เพราะมีมากมายที่เข้ามาแล้วตรวจพบว่าติดเชื้อ ไม่ว่าจะช่วงสัปดาห์แรกหรือสัปดาห์ที่สองของการกักตัว


ลองคิดตาม ก็จะเห็นภาพว่า โมเดล 7+7 หรือ 10+4 หรือไม่กักตัว...สารพัดสารเพที่ช่างคิดเสนอและผลักดันแบบถูลู่ถูกังชักแม่น้ำทั้งห้ามาแถไถจนสีข้างถลอกกันอยู่นั้น ล้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อการหลุดรอดของผู้ติดเชื้อไปสู่ชุมชน


เคสเดียวที่ออกไป ก็กระจายไปทั่วได้ ดังที่เห็นในหลากหลายเหตุการณ์แบบ superspreader ในต่างประเทศ  ไม่ว่าจะเดินออกนอกห้องพักไปภายในสถานที่กักตัว ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องอาหาร ล็อบบี้ หรือไปถึงชายหาด ร้านค้าข้างทาง หาบเร่แผงลอย ฯลฯ คนแพร่ก็แพร่ได้ไม่รู้ตัว คนติดก็ติดโดยไม่รู้ตัว


ที่จะหนักคือ คนท้องถิ่นที่รับเชื้อมา ก็จะแพร่ให้สมาชิกครอบครัวเวลากลับไปที่บ้าน ดังที่แถบอเมริกาก็กำลังประสบปัญหาแพร่แก่คนในครอบครัวกันมากมาย ยิ่งหน้าเทศกาล คนในครอบครัว พบปะญาติสนิทมิตรสหาย กระจายกันทั่ว


การกักตัว 14 วันตามมาตรฐานทางการแพทย์พร้อมตรวจคัดกรองอย่างน้อย 2 ครั้งนั้นคือหัวใจสำคัญที่จะปกป้องสวัสดิภาพความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนทุกคนในประเทศ


"หากรักชาติจริง จะไม่คิดบั่นทอนให้หัวใจอ่อนแอด้วยวิธีใดๆ ท่ามกลางการระบาดทั่วโลกที่รุนแรงเช่นนี้"


 

ขณะเดียวกันยังได้เปิดเผยถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลก 21 พฤศจิกายน 2563 โดยพบว่า บราซิลเกิน 6 ล้าน เยอรมันทะลุ 9 แสน ทั่วโลกตายทุบสถิติ 12,020 คนในวันเดียว สูงสุดเท่าที่เคยมีมา


เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มอีกถึง 676,153 คน รวมแล้วตอนนี้ 57,865,524 คน ยอดตายรวม 1,376,499 คน 


อเมริกา หนักหน่วงมาก ติดเพิ่มถึง 207,612 คน รวม 12,254,179 คน ตายเพิ่มอีกถึง 2,055 คน ยอดตายรวม 260,138 คน 


อินเดีย ติดเพิ่ม 46,117 คน รวม 9,050,442 คน


บราซิล ติดเพิ่ม 38,397 คน รวม 6,020,164 คน 


ฝรั่งเศส อาการยังทรงๆ ติดเพิ่ม 22,882 คน รวม 2,109,170 คน


รัสเซีย ติดเพิ่มทำลายสถิติอย่างต่อเนื่อง 24,318 คน รวม 2,039,926 คน 


อันดับ 6-10 ตอนนี้เป็น สเปน สหราชอาณาจักร อาร์เจนตินา อิตาลี และโคลอมเบีย ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลายหมื่นต่อวัน


เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ออสเตรีย โปแลนด์ แคนาดา รวมถึง อิหร่าน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และเมียนมาร์ ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายหมื่น


สวีเดนนั้นหลายคนคงจำได้ว่า เค้าพยายามใช้โมเดลให้ดำเนินชีวิตปกติไม่ล็อคดาวน์ และไม่ได้แนะนำให้ประชาชนใส่หน้ากากในที่สาธารณะอย่างจริงจัง แต่พบว่าสู้กับการระบาดของโรคไม่ไหว จำนวนการติดเชื้อสูงมากขึ้นเรื่อยๆ และอัตราเสียชีวิตสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศกลุ่มนอร์ดิคอื่น ล่าสุดรัฐบาลต้องออกมาตรการห้ามรวมกลุ่มกันเกิน 8 คน ตั้งแต่ 24 พฤศจิกายนเป็นต้นไป คงต้องเอาใจช่วยให้ควบคุมโรคได้โดยเร็ว  หลายต่อหลายประเทศในยุโรป ก็ยังติดกันหลักร้อยถึงหลักพัน


เกาหลีใต้ และมาเลเซีย ติดกันเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน และฮ่องกงติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เวียดนาม และนิวซีแลนด์ ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
 

สถานการณ์ในเมียนมาร์ เมื่อวานติดเพิ่มขึ้นอีก 1,532  คน ตายเพิ่มอีก 19 คน ตอนนี้ยอดรวม 76,414 คน ตายไป 1,695 คน อัตราตายตอนนี้ 2.2% 
สัญญาณที่ไม่ดีในช่วงนี้คือ จำนวนการติดเชื้อรายวันที่สูงขึ้นกว่าช่วงเมษายนถึง 8 เท่า จำนวนผู้เสียชีวิตต่อวันก็สูงขึ้นกว่าช่วงเมษายนถึง 2 เท่า และจำนวนผู้ป่วยรุนแรงและวิกฤติรายวันก็สูงกว่าช่วงเมษายนถึง 2 เท่าเช่นกัน


สถานการณ์ในยุโรป หลายประเทศก็กำลังประสบปัญหาเตียงในโรงพยาบาลใกล้เต็ม จึงต้องตัดสินใจล็อคดาวน์ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา และลุ้นว่าจะเห็นผลในการลดการระบาดได้ภายในกลางเดือนหน้า 


สำหรับประเทศไทยเรา คลื่นลมดูสงบ ไม่ได้แปลว่าปลอดภัย อย่าลืมว่าเรามีรายงานเคสติดเชื้อในประเทศมาก่อนหน้านี้ และหาต้นตอไม่ได้ บ่งบอกว่ามีการติดเชื้อแฝงอยู่ในประเทศแน่นอน เพียงแต่เราไม่ได้ตรวจในวงกว้างทั่วไปได้ด้วยข้อจำกัดเชิงทรัพยากร


ดังนั้นการใช้ชีวิตประจำวัน จะทำงาน จะไปตลาด ไปเที่ยวพักผ่อน ก็ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ รักตัวเอง รักครอบครัว ต้องป้องกันตัวเสมอนะครับ  ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างจากคนอื่นหนึ่งเมตร พบคนน้อยๆ สั้นๆ เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร และคอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายให้หยุดเรียนหยุดงานและรีบไปตรวจครับ...