ซูปเปอร์ไต้ฝุ่น “โคนี” พายุแรงสุดในรอบปี ขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ วันนี้ 

31 ต.ค. 2563 | 19:00 น.

จับตา ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “โคนี” พายุที่มีความแรงที่สุดในปีนี้ ขึ้นฝั่งประเทศฟิลิปปินส์ วันนี้  ทางการสั่งอพยพ 2 แสนคน หนีไปที่ปลอดภัย

วันนี่ 1 พ.ย. 63 พายุ ซูปเปอร์ไต้ฝุ่น “โคนี” ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางพายุคงที่ 115 น็อต แนวโน้มขึ้นฝั่งประเทศฟิลิปปินส์วันนี้  จากนั้นมีแนวโน้มจะมาขึ้นฝั่งตอนกลางของเวียดนามในวันที่ 4 พ.ย.

 

เมื่อวานนี้ (31 ต.ค.63) สำนักอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์รายงานว่า ซูปเปอร์ไต้ฝุ่นโคนี ซึ่งมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 205 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะเคลื่อนผ่านแหลมทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะลูซอนในช่วงเช้าวันอาทิตย์ (1) ก่อนจะพัดขึ้นฝั่งในช่วงบ่าย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดภาพดาวเทียม พายุ​ไต้ฝุ่น​ “โคนี”  

เกาะติด"พายุโคนี" ทวีกำลังเป็น​พายุซุปเปอร์​ไต้ฝุ่น

เกาะติด"พายุโคนี"ทวีความแรงเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 5

จับตา พายุลูกใหม่ "พายุโคนี" เส้นทางเดินถึงไทย อีสานตอนใต้เตรียมรับมือฝนตกหนัก

เปิดเส้นทางพายุ 2 ลูก "ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นโคนี กับ ไต้ฝุ่นอัสนี" 1-9 พ.ย.

 

และจัดเป็นไต้ฝุ่นที่มีความแรงสูงสุดที่จะเคลื่อนผ่านหมู่เกาะฟิลิปปินส์ถัดจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน (Haiyan) ที่เคยคร่าชีวิตชาวเมืองตากาล็อกไปกว่า 6,300 คนเมื่อปี 2013

 

ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่ง หรือชุมชนที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มในจังหวัดคานาริเนสนอร์เต (Camarines Norte) และคามาริเนสซูร์ (Camarines Sur) ได้รับคำเตือนให้อพยพแต่เนิ่นๆ ส่วนที่จังหวัดอัลไบ (Albay) หน่วยงานท้องถิ่นมีคำสั่งให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยรีบย้ายออกจากบ้านเรือนโดยด่วน

 

เกรมิล นาซ เจ้าหน้าที่บรรเทาภัยพิบัติในท้องถิ่น บอกกับสถานีวิทยุ DZBB ว่า “ความแรงของไต้ฝุ่นลูกนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น”

 

ไต้ฝุ่นโมลาเบ (Molave) ซึ่งเคลื่อนผ่านจังหวัดทางตอนใต้ของกรุงมะนิลาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 22 ราย ขณะที่ไต้ฝุ่นโคนีซึ่งเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 18 ที่พัดเข้าสู่หมู่เกาะฟิลิปปินส์ในปีนี้ก็คาดว่าจะมีเส้นทางที่ใกล้เคียงกัน

เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ยังเผชิญปัญหายุ่งยากเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคมภายในศูนย์พักพิงเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 โดยฟิลิปปินส์นั้นมียอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงเป็นอันดับที่ 2 ของภูมิภาคอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย

 

ไต้ฝุ่นโคนีซึ่งกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคาดว่าจะเริ่มทำให้มีฝนตกในกรุงมะนิลาและ 14 จังหวัดใกล้เคียงตั้งแต่ค่ำวันนี้ (31) และมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันหรือดินถล่มขึ้นได้

 

ขณะเดียวกัน ไต้ฝุ่นลูกใหม่ที่มีชื่อว่า “อัสนี” (Atsani) ก็กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นที่นอกชายฝั่งของฟิลิปปินส์