ผู้ค้าราชประสงค์ วอนทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน

16 ต.ค. 2563 | 10:35 น.

ผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ หวั่นม็อบกระทบเศรษฐกิจ วอนทุกฝ่าย หาทางออกร่วมกัน

นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า สถานการณ์การชุมนุมในครั้งนี้มองว่ามีเรื่องที่น่ากังวลอยู่ 2 ประการได้แก่ 1. หลังจากประสบกับปัญหาโควิด-19 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แรงงานในย่านที่บอบช้ำจากสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวทั้ง ธุรกิจโรงแรม พนักงาน ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้โรงแรม และผู้ประกอบในย่านต้องลดจำนวนพนักงานลง 20%

 

“สถานการณ์เพิ่งจะเริ่มคลี่คลาย ธุรกิจเพิ่งเริ่มยืนขึ้นได้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่จะต้องมาเผชิญสถานการณ์การชุมนุมอีกครั้งทำให้หลายธุรกิจอีกครั้ง ทั้งในส่วนของห้องพัก ร้านอาหารศูนย์การค้า กิจกรรม และการประชุมต่างๆ โดนยกเลิกทั้งหมด ซึ่งถือว่าได้รับผลกระทบอีกระลอก”

ชาย ศรีวิกรม์

2. เรื่องของสถานการณ์ความเป็นจริงที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ผ่านทั้งโลกของออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าเรื่องของออฟฟไลน์สถานการณ์ก็เป็นไปตามความเป็นจริงอยู่แล้ว แต่ในส่วนของออนไลน์ที่นำเสนอไปบางส่วนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หลายฝ่ายมีการกล่าวหาว่าทางกลุ่มฯปิดอาคาร ศูนย์การค้า เพื่อสนับสนุนภาครัฐซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ซึ่งการปิดศูนย์การค้าและอาคารหลายแห่งในย่าน เนื่องจากยังไม่ทราบสถานการณ์แน่ชัด ทั้งการชุมนุม และมารตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ทำให้ต้องมีการปิดก่อนกำหนด เพื่อมอนิเตอร์สถานการณ์

 

“ไม่มีใครอยากปิดเร็วกว่ากำหนดและดำเนินธุรกิจไมได้ แต่เราเป็นเอกชนภาครัฐไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับภาคธุรกิจ ดังนั้นการที่เราปิดอาคารศูนย์การค้าต่างๆ เพื่อดูความชัดเจน ทั้งในส่วนของทางเข้าออก และการบริหารจัดการ ซึ่งหากมีความชัดเจนเรื่องเส้นทางการเข้า-ออก และการจราจรซึ่งหากมีความชัดเจนก็พร้อมเปิดทำการทันที”

 

ทั้งนี้จากสถานการณ์ดังกล่าวหากมองจากมุมของนักลงทุนต่างชาติ แน่นอนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ การลงทุน ที่จะเข้ามา และปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายฝ่ายอาจจะมีการเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ชัมนุมที่ประท้วงในฮ่องกง ในเรื่องของความรุนแรงและภาพลักษณ์ที่สื่อออกไป ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นโดยเฉพาะในเรื่องของการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวที่กำลังประสบปัญหาอยู่ อาจจะทำให้ช้าลง ขณะที่ภายในประเทศเองภาพลักษณ์ที่สื่ออออกมาแสดงถึงความแตกแยกที่เกิดขึ้นในสังคม ภาพความรุนแรงที่มีการสื่อออกไปทั้งจริงและไม่จริงย่อมส่งผลกระทบแน่นอน

ผู้ค้าราชประสงค์ วอนทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน

“เราเคารพในความคิดเห็นและสิทธิเสรีภาพของแต่ละบุคคลที่แสดงออกมา เห็นต่างกันได้ไม่ใช่ปัญหา แต่ทว่าจากความแตกต่างทางความคิดต้องมีความเข้าใจกัน และต้องรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่และต้องมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม เป็นปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญและรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งมองว่ากระบวนการเหล่านี้จะพัฒนาอย่างไรดี การเห็นต่างไม่ใช่ศัตรู ก็เหมือนการเลือกตั้งที่ต้องยอมรับตามระบอบ

 

นั่นคือจุดยืนที่เราอยาเห็น  ซึ่งทางกลุ่มไม่ได้มีการฝักใฝ่ฝ่ายใดเพียงแต่ไม่ต้องหารเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น และพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการหาทางออกที่ดีร่วมกัน ซึ่งที่ผ่านประเทศไทยและย่านราชประสงค์ต้องเผชิญกับการชุมนุมหลายการชุมนุม หลายฝ่าย และทุกคนต่างก็รู้ดีกับผลที่ตามมา ซึ่งอยากให้มองเป็นบทเรียนและหาทางออกที่ดีร่วมกันมากกว่า”

 

ทั้งนี้สิ่งที่น่ากังวลกับการชุมนุมครั้งนี้คือเรื่องของมือที่สาม ที่อาจจะต้องการสร้างความแตกแยกในสังคม โดยมองว่าผู้ชุมนุมกว่า 90% ไม่ได้ต้องการความรุนแรงเพียงแค่ต้องการแสดงจุดยืน ขณะที่อีก 5-10% คือเรื่องของมือที่สามที่ทำให้เกิดความรุนแรง นั่นคือสิ่งที่น่าเป็นห่วงต่อผู้ชุมนุม เด็กเยาวชนที่บริสุทธิ์รวมถึงแรงงานในย่านที่อาจจะได้รับผลกระทบ ขณะที่อีกปัจจัยหนึ่งที่น่ากังวลคือเรื่องของสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ที่ยังไม่จบลง การชุมนุมอาจจะส่งผลต่อการระบาดตามมา

ผู้ค้าราชประสงค์ วอนทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน

อย่างไรก็ตามสำหรับทางออกในครั้งนี้นอกจากเรื่องของความชัดเจนในการบริการจัดการของภาครัฐ  ความชัดเจนของกลุ่มผู้ชุมนุมในการบริการจัดการ ทางกลุ่มพร้อมที่จะเจรจากับทุกฝ่ายเพื่อหาทางออก การบริหารจัดการในย่านเพื่อให้ส่งผลดีต่อทุกฝ่ายร่วมกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เซ็นทรัลเวิลด์ ปิด 16.00 น. ให้พนักงานกลับบ้าน

15.00 น. ขสมก.งดรับ-ส่งผู้โดยสาร 5 กม. ก่อนแยกราชประสงค์

ตร.ปิดการจราจรรอบแยกราชประสงค์ ตั้งแต่ 14.00 น.วันนี้