"หมอธีระ"ชี้โควิด-19 เมียนมายังหนักหน่วง ติดเพิ่ม 671 คน

21 ก.ย. 2563 | 02:56 น.

"หมอธีระ"ชี้โควิด-19 เมียนมายังหนักหน่วง ไทยควรเตรียมแผนในการรับมือระบาดซ้ำ มีเหตุการณ์ที่ชี้ให้เห็นว่ามีโอกาสเกิดขึ้นในไม่ช้า

21 กันยายน 2563 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกล่าสุด 21 กันยายน 2563 ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat  ระบุว่า Highlights: เมื่อวานทะลุ 31 ล้านไปเรียบร้อย ความเร็ว 1 ล้านคนใน 3 วัน...โคลอมเบียแซงเปรูขึ้นมาเป็นที่ 5 ส่วนฝรั่งเศสแซงชิลีขึ้นมาเป็นที่ 11 แล้ว ในขณะที่เมียนมาร์เพิ่มขึ้นถึง 671 คน มากกว่าวันก่อนถึง 66% ส่อสัญญาณหยุดไม่อยู่...

เมื่อวานติดเพิ่มไปอีกถึง 228,549 คน รวมแล้วตอนนี้ 3,196,891 คน คร่าชีวิตไปแล้วทั้งสิ้น 964,321 คน

 

อเมริกา ติดเพิ่ม 34,470 คน รวม 6,997,789 คน วันนี้ตอนสายๆ อเมริกาจะทะลุ 7 ล้านคน ตอนนี้มีอัตราเสียชีวิตเฉลี่ย 2.9%

 

อินเดีย ติดเพิ่ม 87,382 คน รวม 5,485,612 คน อัตราเสียชีวิตเฉลี่ย 1.6%

 

บราซิล ติดเพิ่ม 16,389 คน รวม 4,544,629 คน อัตราเสียชีวิตเฉลี่ย 3%

 

รัสเซีย ติดเพิ่ม 6,148 คน รวม 1,103,399 คน จำนวนติดเชื้อต่อวันของรัสเซียกำลังค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องจับตาดู อัตราเสียชีวิตเฉลี่ย 1.8%

อันดับ 5-10 ยังเป็นเช่นเดิม ติดกันหลายพันถึงหมื่นกว่าต่อวัน อันดับโลกเปลี่ยนแปลงคือ โคลอมเบียแซงเปรูขึ้นที่ 5 เรียบร้อยแล้ว

 

หลายต่อหลายประเทศในยุโรป ทั้งฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหมื่นกว่า

 

ที่น่าห่วงคือ ฝรั่งเศส ติดเพิ่มอีกถึง 10,569 คน แซงชิลีขึ้นมาเป็นอันดับ 11 เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ฝรั่งเศสมีอัตราเสียชีวิตเฉลี่ยสูงถึง 6.9%

 

ญี่ปุ่น แคนาดา และเมียนมาร์ ติดเพิ่มกันหลักร้อย ส่วนจีน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ มาเลเซีย ออสเตรเลีย และฮ่องกงติดเพิ่มกันหลักสิบ ในขณะที่นิวซีแลนด์ก็ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

 

...สถานการณ์ในเมียนมาร์ยังหนักหน่วง ติดเพิ่มไป 671 คน ตายเพิ่มอีก 11 คน มียอดรวมแซงฮ่องกงไปแล้ว หากดูจำนวนติดเชื้อต่อวันจะพบว่าเพิ่มขึ้นถึง 66% ของวันก่อน ถือเป็นสัญญาณวิกฤติ ต้องเอาใจช่วยเค้าให้สามารถควบคุมโรคได้โดยเร็ว

...ส่วนไทยเรานั้น ควรเตรียมแผนในการรับมือระบาดซ้ำ เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่ชี้ให้เห็นว่ามีโอกาสเกิดขึ้นในไม่ช้า ไม่ว่าจะเป็นหลายเคสที่มีประวัติบ่งถึงการติดเชื้อภายในประเทศ โดยยังควานหาต้นตอไม่ได้ รวมถึงการชุมนุมเรือนหมื่นที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการลักลอบเข้าเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน และการทยอยเข้ามาของกลุ่มต่างๆ จากต่างประเทศ ยังไม่นับการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาตั้งแต่ตุลาคมที่จะถึงนี้

 

...ขอให้เราตั้งการ์ดให้ดี ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร พูดน้อยลง พบคนน้อยลงสั้นลง เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร และคอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายควรหยุดเรียนหยุดงานและรีบไปตรวจ

 

...รัฐควรทบทวนนโยบายการรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ จากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ ควรชะลอนโยบายการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยืนบนขาตนเอง ลดการพึ่งพา สถานการณ์เช่นนี้ต้องประคับประคองให้รอดพ้นการระบาดซ้ำ ไม่ใช่เวลาทุ่มเงินกู้ไปฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพราะหากทุ่มทุกอย่างไปในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม จะกลายเป็นตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

 

ระบาดซ้ำจะรวดเร็ว รุนแรง คุมยาก ใช้เวลานาน และเกิดผลกระทบวงกว้างกว่าเดิม สุดท้ายแล้วเราจะไม่เหลือทรัพยากรไปฟื้นฟูในช่วงเวลาที่จำเป็นต้องฟื้นฟู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 31.2 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 9.6 แสนราย

อู่ฮั่นเปิดวิ่งรถไฟท่องเที่ยวขบวนแรก หลังพิชิตโควิด-19

"หมอธีระ"ชี้โควิด-19 ติดเชื้อพุ่ง เกิน 3 แสนรายต่อวันอย่างต่อเนื่อง