ศาลฎีกาพิพากษา กักขัง "หมอเปรม" 2 เดือน คดีแก้ผ้านักข่าว

09 กันยายน 2563

ศาลฎีกาพิพากษา ลงโทษกักขัง "หมอเปรม" 2 เดือน ใส่กำไลอีเอ็ม คดีแก้ผ้านักข่าว

จากกรณี น.พ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมพวก ตกเป็นจำเลยในข้อหาข่มขืนใจ บังคับขู่เข็ญทำให้ตกใจกลัว และกระทำการอนาจารต่อหน้าธารกำนัล โดยมีผู้สื่อข่าวภูมิภาคในจังหวัดขอนแก่น เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง  เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2559 และศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาจำคุก 2 เดือนโดยไม่รอลงอาญาแต่นพ.เปรมศักดิ์ได้ยื่นต่อสู้ในชั้นศาลฎีกานั้น

 

วันนี้ (9 ก.ย. 63) ในเวลา 09.00 น.ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษาในคดีดังกล่าว  ล่าสุดมีรายงานว่าศาลฎีกาตัดสินกักขังหมอเปรม 2 เดือน ใส่กำไลอีเอ็ม

 

ก่อนหน้านี้นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ ได้นำเงินสด 1 แสนบาทไปวางไว้ที่ศาล ระบุว่าเป็นเงินเยียวยาผู้เสียหาย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายคนใดไปรับเงินดังกล่าว เพราะทุกคนล้วนอยากต่อสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อให้เอาคนผิดไปลงโทษ

หลังฟังคำตัดสินของศาล ทนายของนพ.เปรมศักดิ์ และร.ต.บัวทอง อยู่ระหว่างดำเนินการร้องขอเรื่องสถานที่กักขัง ซึ่งจะต่างจากการจำคุก ไม่ต้องเข้าเรือนจำ หรือแดนขังและสามารถเยี่ยมผู้ต้องขังได้วันละ 1 ครั้ง

 

นายปกาญ นพศรี ทนายความฝ่ายโจทย์ เปิดเผยว่า วันนี้ที่ศาลฎีกาพิพากษา ต้องเคารพคำพิพากษาของศาลในจะก้าวล่วงไม่ได้ ซึ่งการกักขัง ขณะนี้ทางทนายฝั่งผู้ต้องหายื่นคำร้องเรื่องสถานที่กักขัง  ส่วนการเปลี่ยนโทษจากจำคุก เป็นกักขังนั้น ศาลมองว่าจำเลยมีการเยียวยาโดยการวางเงินชดใช้ค่าเสียหายถือว่าจำเลยได้มีการสำนึกจึงได้ลดโทษให้จากจำคุกเป็นกักขังสำหรับการกักขังสถานที่กักขังประเทศไทยขณะยังไม่มีสถานที่กักขัง   แต่ก็จะมีกรรมวิธีกักขังจะกักขังที่บ้านโดยใช้กำไล EM หรือติดตามตัวกำไลอิเล็กทรอนิกส์แล้วให้ไปกักตัวในสถานที่กำหนด 

 

ส่วนนายปราโมทย์ ศรีบุระ ตัวแทนสื่อมวลชน เปิดเผยว่า การตัดสินคดีในวันนี้รอมา 3 ปีเศษ  และเคารพในคำตัดสินของศาลฎีกา ซึ่งส่วนตัวถือว่าพอใจในคำตัดสินในระดับหนึ่ง  เพราะก่อนหน้านี้คาดหวังว่าโทษน่าจะสูงกว่านั้น  ซึ่งตลอด 3 ปีมีการพูดคุยกับสื่อทั้ง 5 คน  ว่าการลดโทษหมอเปรมน่าจะเป็นการรอลงอาญาหรือว่าไม่รอลงอาญาเท่านั้น  แต่วันนี้ศาลพิพากษามาแล้วคือเปลี่ยนจากจำคุกเป็นกักขัง  ส่วนเงินสด 1 แสนบาท ที่ทางหมอเปรมพร้อมพวก นำมาเยียวยานั้นหมอเปรมนำเงินมาวางไว้ที่ศาล เพื่อแสดงเจตนาการเยียวยาสื่อมวลชนไม่ได้รับมาแต่อย่างใด เพื่อป้องกันคำครหาและให้เป็นคดีตัวอย่าง ที่สื่อมวลชนไม่ควรถูกคุกคาม

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวจาก 5 สำนักข่าวในจังหวัดขอนแก่น ได้ติดตามทำข่าวกรณีมีการเผยแพร่ภาพทางโซเชียลมีเดีย เป็นภาพนพ.เปรมศักดิ์ นั่งคู่กับหญิงสาวชั้น ม.5 คล้ายพิธีหมั้น หรือพิธีมงคลสมรสของชาวภาคอีสาน ผู้สื่อข่าวทั้งหมดจึงได้ขอพบและสัมภาษณ์นพ.เปรมศักดิ์ ภายในที่ทำการสำนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่สร้างความไม่พอใจให้ นพ.เปรมศักดิ์ เป็นอย่างมาก ก่อนจะให้ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สำนักเข้าไปภายในห้องทำงานนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปกลับถูกนพ.เปรมศักดิ์ สั่งเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ เก็บโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายภาพ พร้อมล็อกตัวนายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวอาวุโส 1 ใน 5 ผู้สื่อข่าวแก้ผ้าประจาน ต่อมาผู้สื่อข่าวเข้าแจ้งความเอาผิด นพ.เปรมศักดิ์ พร้อมพวก กระทั่งถูกศาลสั่งกักขังคนละ 2 เดือน