"นมแม่” วัคซีนหยดแรกเพื่อลูกรัก

11 ส.ค. 2563 | 21:00 น.

รู้หรือไม่ว่า "น้ำนมแม่"เปรียบเสมือนวัคซีนสำคัญ เป็นเกราะป้องกันเชื้อโรค เป็นยาดีสำหรับการเจริญเติบโตของลูกน้อย

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า น้ำนมแม่มีประโยชน์มหาศาล เป็นยาดีชั้นเลิศที่ช่วยให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันที่ดี เจริญเติบโตสมวัยได้รับความอบอุ่นจากอกมารดา และที่สำคัญยังลดอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคท้องเสียติดเชื้อ ลดการติดเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง ลดความรุนแรงจากอาการป่วยด้วยโรคหลอดลมฝอยอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัส RSV 


"การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้น ยังเป็นโอกาสทองที่สร้างสายใยรักที่ดีให้แก่ครอบครัว คุณพ่อก็สามารถช่วยเลี้ยงดูได้ และอยากให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวจนถึงอายุ 6 เดือน หลัง 6 เดือนให้รับอาหารเสริมตามวัยควบคู่กับนมแม่จนถึง 2 ขวบหรือนานกว่านั้น"


ด้านนายแพทย์อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวว่า สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้กับบุคลากร และประชาชนทั่วไป โดยมีคลินิกนมแม่ให้บริการและให้คำปรึกษาสำหรับมารดาที่มีปัญหาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
 

สำหรับประโยชน์ของนมแม่ โดยเฉพาะน้ำนมในช่วงแรกที่เรียกว่า “โคลอสตรัม” หรือน้ำนมเหลือง เปรียบเสมือนวัคซีนหยดแรกของลูกที่สร้างภูมิคุ้มกัน มีสารอาหารเหมาะสมกับทารกมากที่สุด สูงสมวัย เพราะมีสารอาหารสำคัญครบถ้วนมากกว่า 200 ชนิด โดยเด็กควรได้กินนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 เดือน ไม่ต้องให้น้ำหรืออาหารอื่น เนื่องจากนมแม่เป็นอาหารที่มีสารอาหารเพียงพอ ย่อยง่ายและถูกสร้างมาให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของทารก ซึ่งระบบการย่อยและดูดซึมอาหารยังพัฒนาไม่เต็มที่


หลังจากทารกอายุครบ 6 เดือน ระบบย่อยและดูดซึมอาหารพัฒนาได้สมบูรณ์มากขึ้น จึงให้เริ่มอาหารที่เหมาะสมตามวัย เช่น กล้วยน้ำว้า ไข่ ข้าว ผัก ผลไม้ และยังคงให้กินนมแม่ต่อเนื่องควบคู่ไปจนถึงอายุ 2 ปีหรือนานกว่านั้น เพื่อช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตได้อย่างสมวัย