หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 7 สิงหาคม 2563
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน หลังความต้องการใช้น้ำมันได้รับแรงกดดันจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย JP Morgan ได้ออกมาปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในครึ่งปีหลังของปี 2563 ลง 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+ อิรักประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติมราว 400,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน ส.ค. 63 เพื่อชดเชยการผลิตน้ำมันดิบที่สูงกว่าข้อตกลงที่ได้ทำร่วมกับกลุ่ม OPEC และประเทศพันธมิตรในช่วงที่ผ่านมา โดยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่อิรักต้องปรับลดลงตามข้อตกลงอยู่ที่ 1.06 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+ ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุน จากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ล่าสุด ที่ปรับตัวลดลงมากกว่าคาดการณ์ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นในตะกร้าเงิน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อด้วยสกุลเงินอื่น
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวลดลงและอุปสงค์น้ำมันเบนซินในปากีสถานที่ปรับเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังในภูมิภาคตะวันออกกลางปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันดีเซลจากจีนที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) โดยราคาน้ำมันร่วงหลุดจากระดับ 42 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความกังวลที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 41.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 45.09 ดอลลาร์/บาร์เรล