เหนืออ่วม"น้ำป่าไหลหลากท่วมหลายพื้นที่

แม้พายุซินลากูจะอ่อนกำลังจากพายุโซนร้อนเป็นดีเปรสชันและจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในวันนี้ อย่างไรก็ตามในหลายพื้นที่ของประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุดังกล่าวโดยมีฝนตกลงมาตลอดทั้งวันตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา 

เฉพาะภาคเหนือในพื้นที่จังหวัดเชียงรายยังมีฝนตกหนักหลายจุด เมื่อวานมีน้ำป่าจากเทือกเขาไหลบ่าทะลักลงท่วมถนนสาย 118 เชื่อมระหว่างตำบลแม่เจดีย์ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย กับอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่หลายจุด โดยบางจุดระดับน้ำท่วมผิวจราจรลึกจนส่งผลทำให้ใช้สัญจรไปมาไม่ได้ จำนวน 2 ช่องจราจร ระยะทางยาวประมาณ 100 เมตร และต้องใช้ช่องจราจรที่เหลืออีก 2 ช่องในการวิ่งสวนทางกัน

โดยเฉพาะที่หมู่บ้านบวกขอน หมู่ที่ 9 ตำบลแม่เจดีย์ใหม่ อำเภอเวียงป่าเป้า พบว่ามีน้ำป่าไหลบ่าลงมาจากเทือกเขาเข้าท่วมผิวจราจร ลึกประมาณ 30-50 ซ.ม.และบ้านเรือนที่อยู่ริมถนน รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ถูกน้ำท่วมจนพักอาศัยอยู่ไม่ได้ และชาวบ้านส่วนใหญ่ที่อยู่ตามเส้นทางที่น้ำไหลบ่าลงมา ได้พากันย้ายออกไปจากบ้านตั้งแต่ช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2563 แล้ว

ส่วนในช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม 2563 พบว่า ระดับน้ำได้ค่อย ๆ เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน ซึ่งทางฝ่ายปกครอง อำเภอเวียงป่าเป้า ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยกู้ภัยต่าง ๆ ได้ระดมกำลังกันเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน เพื่อทำการขนย้ายข้าวของสิ่งของจำเป็น และแจกจ่ายทั้งน้ำดื่มและอาหารกันตลอดทั้งวัน

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและพบว่า มีพื้นที่ได้รับความเสียหายจำนวน 17 หมู่บ้าน ใน 2 ตำบลของอำเภอเวียงป่าเป้า ประกอบด้วย ตำบลแม่เจดีย์ หมู่ที่ 1,2,3,4,10,11,14,16 และ ตำบลแม่เจดีย์ใหม่ หมู่ที่ 1,2,3,4,5,6,9,11 และหมู่ที่ 14 ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งศูนย์อำนวยการส่วนหน้า เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านตลอดทั้งวันจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ 

ขณะเดียวกันได้เตรียมเฝ้าระวังในพื้นที่อื่นๆอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพราะยังคงมีฝนตกหนัก โดยพบว่าระดับน้ำตามลำน้ำสายต่าง ๆ เช่น แม่น้ำจัน แม่น้ำอิง แม่น้ำคำ ฯลฯ เริ่มมีสีขุ่น และระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งที่ลำห้วยเขตหมู่บ้านป่าแดง หมู่ 2 ตำบลยางฮอม อำเภอขุนตาล พบว่า มีน้ำจากเทือกเขาไหลบ่าลงลำห้วยไหลเชี่ยวกราดอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ทำให้ชาวบ้านริมฝั่งต้องทำการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ส่วนถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่ หลักกิโลเมตรที่ 58+679 หลักกิโลเมตรที่ 61+632 และ 64+800 น้ำป่าได้ท่วมผิวจราจรลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ทางยาวกว่า 100 เมตร รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ส่วนบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 32+949 ใกล้ด่านตรวจบ้านแม่โถ ซึ่งเป็นทางเบี่ยงบริเวณที่กำลังก่อสร้างสะพาน ถูกน้ำพัดขาด รถทุกชนิดสัญจรผ่านไปมาไม่ได้ตั้งแต่วันวานนี้

แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 1 ได้มีการประกาศแนะนำผู้ที่จะเดินทางระหว่าง จังหวัดเชียงราย ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลข 118 ให้ทางเลี่ยง 3 เส้นทาง คือ เส้นทางสายเชียงราย-พะเยา-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 350 กิโลเมตร เส้นทาง เชียงราย-แม่สรวย-เวียงเป่าเป้า-อ.พร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร และเส้นทางเชียงราย-แม่สรวย-อ.ฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 280 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม เส้นทางทางหลวงหมายเลข 118 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 32+949 ซึ่งเป็นทางเบี่ยงในบริเวณที่กำลังก่อสร้างสะพาน ได้ถูกน้ำป่าพัดขาด นายณัฐพล แก้วอู๋ นายช่างควบคุมโครงการก่อสร้างทางเชียงใหม่ - เชียงราย เปิดเผยว่า จุดดังกล่าวอยู่ในระหว่างการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วนเพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 วัน หากฝนหยุดตกและสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
 

ขณะที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ออกมาประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ของจังหวัดหวัดแม่ฮ่องสอน ให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์เหตุอุทกภัยจากฝนตกหนัก และทำให้เกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากฉับพลัน โดยได้แจ้งเตือนไปยัง อบจ.และ อบต.ทุกแห่งให้จัดหน่วยกู้ชีพเตรียมรับสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนที่จังหวัดลำปาง โดยเฉพาะอำเภอวังเหนือ ซึ่งมีพื้นที่ติดกับจังหวัดเชียงรายและพะเยา ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 2 ส.ค.มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง น้ำป่าไหลหลากเข้าบ้านเรือน ประชาชน หลายหลังคาเรือน  ซึ่งขณะนี้มีอาสาสมัครและหน่วยงานต่างๆได้เข้าช่วยเหลือแล้ว

เครดิตภาพ:วัดบ้านใหม่เมืองวัง วังเหนือ ,ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย