"โจ นูโว" แจ้งความเอาผิดเฟซบุ๊กปลอม ยันไม่รู้จัก "ฌอน"   

06 ก.ค. 2563 | 11:07 น.

นักร้องดัง "โจ นูโว" แจ้งความปอท.เอาผิดเฟซบุ๊กปลอม 2 บัญชี ยืนยันไม่รู้จัก "ฌอน"   

วันนี้ ( 6 ก.ค. ) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ บก.ปอท. นักร้องดัง  โจ นูโว หรือ นายจิรายุส วรรธนะสิน พร้อม นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทนาย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท./โฆษก บก.ปอท. ร.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ปรัญญา รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำเฟซบุ๊กปลอมบัญชี 2 บัญชี คือ บัญชีชื่อ "Jirayut Wattanasin" และอีกบัญชีชื่อ "โจ นูโว จิรายุส วรรธนะสิน" เนื่องจากเฟซบุ๊กปลอมดังกล่าวโพสต์ว่า  "ฌอนไม่น่าไปช่วยพวกคนเชียงใหม่เลย" เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะมีคนหลงผิดเข้าไปอ่านแล้วแสดงความคิดเห็นและแชร์โพสต์ปลอมจำนวนมาก  

 

นอกจากนั้นยังมีสื่อออนไลน์ค่ายหนึ่ง รีบร้อนเอาโพสต์เฟซบุ๊กปลอมดังกล่าวไปนำเสนอขึ้นออนไลน์อีก ก่อนจะแก้ไขเพิ่มเติมในเวลาต่อมาว่า “ตนชี้แจง...ข่าวที่ลงก่อนหน้าเป็นข่าวปลอม” แต่มิได้มีการขอโทษแต่อย่างใด 

 

โจ นูโว  กล่าวว่าไม่รู้จักกับ "ฌอน" มาก่อน เพิ่งมารู้ภายหลังว่าเป็นเน็ตไอดอล สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น สิ่งที่สื่อฯ ค่ายดังกล่าวนำเสนอออกไปแค่เพียงครึ่งชม.ทำให้คนในโซเชียลฯ มาแสดงความเห็นกระหน่ำด่าว่าจำนวนถึง 1.4 หมื่นข้อความ เมื่อตนเอาข้อความที่ลงในข่าวออนไลน์มาโพสต์ลงใน ไอจี พร้อมกับสอบถามว่า “อันนี้ฟ้องได้มั๊ยครับ” จากนั้นแค่ 15 นาที สื่อฯ ค่ายดังกล่าวรีบแก้ไขทันทีระบุว่าเป็นเฟซบุ๊กปลอม ซึ่งน่าจะรู้ว่าเป็นเฟซบุ๊กปลอมตั้งแต่แรกก่อนลงออนไลน์แล้วและน่าจะโทรเข้ามาสอบถามตนก่อนลง  ซึ่งตนเคยเอามาแจ้งความ ปอท.ในช่วงปีที่ผ่านมาถึงสองครั้ง 

 

 

อย่างไรก็ดี โจ นูโว ยอมรับว่ามูลเหตุจูงใจของคนร้ายที่ปลอมแปลง นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบนั้น อาจจะมาจากความไม่ชอบส่วนตัวเกี่ยวกับทัศนคติทางการเมืองก็อาจเป็นไปได้ ด้วยความที่ตนเป็นบุคคลสาธารณะ หลังจากนี้อาจจะต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ทั้ง IG และ facebook ส่วนใหญ่ก็จะโพสต์ทั่วไป เช่นขายทุเรียน ต่อยมวย ออกกำลังกาย เป็นต้น

“สุดท้ายขอฝากไปถึงคนเชียงใหม่ ว่า ข้อความที่คนร้ายปลอมแปลงนั้น มีเจตนาสร้างความเกลียดชัง ยืนยันว่าผมรักคนเชียงใหม่ทุกคน”  โจ นูโว  กล่าวทิ้งท้าย

 

ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่าเบิ้องต้น ได้ให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานแล้วพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งฝากเตือนประชาชน อย่าแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จเพราะมีความเสี่ยงในการถูกดำเนินคดีฐานส่งต่อข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง