OECD ชื่นชมไทยรับมือโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

02 ก.ค. 2563 | 20:05 น.

OECD ชื่นชมไทยในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสบผลสำเร็จอย่างดี และเป็นที่ยอมรับ

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข และนายอังเคล กูเรีย เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ร่วมหารือผ่านระบบการประชุมทางไกล เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันเกี่ยวกับการรับมือกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งเลขาธิการ OECD แสดงความชื่นชมไทยในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสบผลสำเร็จอย่างดี และเป็นที่ยอมรับ

นายอนุทิน ได้กล่าวถึงความก้าวหน้าการพัฒนาวัคซีนของไทย โดยการพัฒนาร่วมกันระหว่างคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีทิศทางที่ดี และเชื่อมั่นว่าอีกไม่นานจะมีวัคซีนที่สำเร็จ สามารถนำไปใช้รักษาได้จริง โดยเป้าหมายของประเทศไทย คือ การได้วัคซีนที่ผลิตเองภายในประเทศ และมีวัคซีนออกสู่ตลาดโลก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"จอห์นฮอปกินส์" ยก "ไทย" อันดับ1 ประเทศที่ป้องกันโควิด-19 ดีเยี่ยมของโลก

ไทยติดโผ"ประเทศปลอดภัย"ของสหภาพยุโรป นทท.เดินทางเข้า EU ได้

“จีน”ชื่นชมไทยไร้ผู้ติดเชื้อโควิดเกิน 1 เดือน

ด้านเลขาธิการ OECD ย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่าง OECD และรัฐบาลไทย พร้อมแสดงความชื่นชมในการดำเนินมาตรการเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย ซึ่งมีประสิทธิภาพ ประสบผลสำเร็จอย่างดี และเป็นที่ยอมรับ ทำให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจำนวนน้อย

ทั้งนี้ โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่ง OECD พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้ และความร่วมมือทางด้านต่างๆ กับไทย

ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันถึงแนวทางการรับมือผลกระทบจากโควิด-19 ในด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ การค้า ห่วงโซ่อุปทานโลก การเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปสู่ธุรกิจแบบดิจิทัล การท่องเที่ยว และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยย้ำว่า ทั้งสองฝ่ายพร้อมกระชับความร่วมมือและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในทุกมิติอันจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชน และประชาคมโลก

 อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน แสดงความขอบคุณ OECD ที่จัดการประชุมครั้งนี้ โดยไทยยินดีให้ความร่วมมือกับ OECD และประชาคมระหว่างประเทศในการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ต่อไป