หลังจากที่ตัวเลขสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ดีขึ้นเป็นลำดับศูนย์ (ศบค.) ได้มีมาตรการผ่อนปรนระยะ 3 ออกมาเพื่อให้ผู้ประกอบการกิจการต่างๆสามารถดำเนินกิจการได้ อย่างไรก็ดี ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมหรือแนวทางปฏิบัติที่ต้องคุมเข้ม
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า โควิด-19 การดูแลระดับประเทศจะต้องอยู่ในความสมดุลย์
อย่างที่เคยกล่าวไว้ว่าเราไม่สามารถทำให้ตัวเลขเป็นศูนย์ได้ แต่เราจะต้องให้ทุกคนอยู่ได้ สุขภาพดี และระบบสาธารณสุขรองรับผู้ป่วยที่จะเกิดขึ้นได้และดูแลผู้ป่วยได้อย่างดี ความสูญเสียทางด้านสุขภาพ เศรษฐกิจและสังคมก็จะไม่เกิด ทุกอย่างจะต้องไปด้วยกันอย่างสมดุลย์
ผมเองยังเชื่อมั่นว่า มาตรการผ่อนปรนกับระบบสาธารณสุขที่จะต้องเข้าไปค้นหาผู้ป่วยอย่างรวดเร็วและควบคุมได้ ถ้าเกิดมีการระบาดหรือพบผู้ป่วยรายใหม่และจำนวนผู้ป่วยจะต้องอยู่ในปริมาณที่ดูแลได้เป็นอย่างดี ทุกคนต้องช่วยกันอย่างเข้มแข็ง ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
การเปิดเรียนก็เช่นเดียวกันจะต้องมีมาตรการเข้มข้น การศึกษาจะต้องเดินไปข้างหน้าด้วยวิถีชีวิตใหม่ การเรียนจะหยุดอยู่ไม่ได้ เด็กทุกคนจะต้องได้มีการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นในสถานที่เรียน เรียนทางไกลหรือเรียนออนไลน์ จะต้องมาผสมผสานกัน เด็กเล็กมีความจำเป็นที่จะต้องเรียนในสถานที่เรียนก็ต้องมีมาตรการเข้มข้น ทั้งลดจำนวนนักเรียน การดูแลสถานที่ แนวทางการปฏิบัติ เด็กโตที่เรียนออนไลน์ได้หรือเรียนทางไกลได้ก็อาจจะผสมผสานด้วยการเรียนภาคปฏิบัติในสถานที่หรือเรียนที่บ้าน ทำการบ้านที่โรงเรียน เป็นโอกาสแล้วจะได้มีการปฏิรูปการศึกษาให้อยู่แนวหน้าไปเลย
ในการเดินทางไปข้างหน้า เรารู้ว่ามีขวากหนามแต่เราจำเป็นต้องเดิน เราก็จะต้องมีความระมัดระวังรอบคอบมากยิ่งขึ้น ให้เกิดอันตรายน้อยที่สุดด้วยความไม่ประมาท ใครเคยเรียนเรื่องนกกางเขน พ่อนกจะสอนว่าไม่ให้กลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิด บทเรียนในอดีต บทเรียนในต่างประเทศจะช่วยสอนให้เรา เดินหน้าไปได้อย่างปลอดภัย