เช็กสิทธิ์ "เงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง"

30 พ.ค. 2563 | 09:50 น.

เปิดรายละเอียด"เงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง" 3,000 บาท ใครบ้างได้รับสิทธิ์

ภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 เห็นชอบมาตรการ "เยียวยากลุ่มเปราะบาง" ที่ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้นำเสนอเพื่อยื่นขอรับการช่วยเหลือ 3 กลุ่มได้แก่ เด็กแรกเกิด,ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  

วันนี้มาดูรายละเอียดของกลุ่มเปราะบางทั้ง 3 กลุ่มกันอีกครั้งว่าใครจะเข้าเงื่อนไข ได้รับเงินเท่าไร หรือหากใครที่ยังไม่เคยลงทะเบียนจะต้องทำอย่างไร 


สำหรับกลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่มที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีฐานข้อมูลอยู่ในมือ มีจำนวน 13 ล้านคน ประกอบไปด้วย 
 

1.กลุ่มเด็กแรกเกิด - 6 ปี เดิมทีกลุ่มนี้จะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลในโครงการ "เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด"เดือนละ 600 บาทอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามยังมีผู้ปกครองบางคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด (โครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่ตุลาคม 2558  มอบให้แก่เด็กที่เกิดตั้งแต่1 ตุลาคม 2558 จนครบ 6 ขวบ และรายได้ครอบครัวเฉลี่ยไม่เกิน 1แสนบาท ต่อคนต่อปี  ) สามารถติดต่อขอลงทะเบียนได้ที่ อบต.,เทศบาล,สำนักงานเขต

ส่วนการขอรับ "เงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง"ของกลุ่มนี้ เดิมทีคาดว่าจะเริ่มจ่ายในเดือนมิถุนายน และจ่ายรวม 2 เดือน (พฤษภาคม และมิถุนายน) เป็นเงิน 2,000 บาท และเมื่อรวมกับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดอีก 600 บาท เท่ากับว่าในเดือนมิถุนายนจะได้รับเงิน 2,600 บาท หลังจากนั้นในเดือนกรกฏาคมจะได้รับเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางที่เหลืออีก 1,000 บาท และเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดอีก 600 บาท เป็น 1,600 บาท 
ในเบื้องต้นผู้ที่ลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดอยู่แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่มเพราะทางทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีฐานข้อมูลอยู่แล้ว ดังนั้นคาดว่าเงินจะเข้าบัญชีเดียวกัน 

 

2.กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ตามปกติในกลุ่มนี้จะได้รับเบี้ยช่วยเหลือเป็นขั้นบันได ตั้งแต่ 600 บาท -1,000 บาทต่อเดือน ดังนั้นเมื่อรัฐฯช่วยเหลือ "เงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง"ก็จะได้เพิ่มเดือนละ 1,000 บาทเป็นเวลา 3 เดือน โดยการจ่ายจะรวม 2 เดือนเช่นเดียวกัน (พฤษภาคม และมิถุนายน) เป็นเงิน 2,000 บาทและบวกเบี้ยช่วยเหลือต่อเดือนของแต่ละคนเข้าไปอีก และในเดือนกรกฎาคม จะได้รับอีก 1,000 บาท  โดยโอนเข้าบัญชีผู้สูงอายุที่เคยได้รับเบี้ยตามปกติอยู่แล้ว 


หากผู้สูงอายุที่ยังไม่เคยลงทะเบียนก็สามารถติดต่อสอบถามไปที่ อบต.,เทศบาลที่อยู่ปัจจุบัน

 

3.กลุ่มคนพิการ มีเบี้ยเงินพิการที่ได้รับอยู่แล้ว 800 บาทต่อเดือน และจะจ่ายจะรวม 2 เดือนเช่นเดียวกัน (พฤษภาคม และมิถุนายน) เป็นเงิน 2,000 บาทและบวกรวมกับเบี้ยที่ได้ต่อเดือน และในเดือนกรกฎาคม จะได้รับอีก 1,000 บาท โอนเข้าบัญชีของผู้พิการที่เคยได้รับเบี้ยรายเดือนอยู่แล้ว ผู้พิการท่านใดที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนรับเบี้ยคนพิการ ให้ติดต่อสอบถามที่อบต./เทศบาล


อย่างไรก็ตามกลุ่มคนพิการ (ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ) ได้รับเงินอีก 1,000 บาท จากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในวันที่ 29 พ.ค. 

นอกจากนั้นแล้ว คนพิการ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมไปถึงเด็กพิการทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะปรับเพิ่มเบี้ยความพิการจาก 800 บาท เป็น 1,000 บาท ตามมติของครม.ที่ออกมาตั้งแต่ 28 มกราคม 2563 และจะมีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป 
 

ถือเป็น 3 กลุ่มที่เข้าข่ายกลุ่มเปราะบาง ซึ่่งความคืบหน้า(วันที่ 4 มิถุนายน )ของการจ่ายเงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง เนื่องจากต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงการคลัง ดังนั้นทางกระทรวงพม.จึงมีแนวคิดที่จะจ่ายเงินทีเดียว 3,000 บาทเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา แต่ทั้งนี้ต้องได้ข้อสรุปต่างๆจากทางกระทรวงการคลังก่อน

 

 

ทั้งหมดถือเป็นกลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่มที่เตรียมรับเงินเยียวยาที่ครม.เคาะเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา  ส่วนกรณีที่เกิดคำถามว่าทำไมเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางถึงไม่ได้ 5,000 บาทเหมือน"เราไม่ทิ้งกัน" , "เงินเยียวยาเกษตรกร" ทางกระทรวง พม. ก็แจ้งมาว่ากลุ่มนี้ได้รับเงินสวัสดิการจากรัฐฯทุกเดือนอยู่แล้ว ดังนั้นการได้ 3,000 บาทนี้เข้ามาถือว่าเพิ่มเติมจากที่เคยได้รับมา 


ส่วนกรณีที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ไม่ว่าจะเป็นเด็กแรกเกิด ,ผู้สูงอายุ และกลุ่มคนพิการ ขอให้ทุกคนที่เข้าข่ายไปลงทะเบียนที่สำนักงานเขต ,อบต,เทศบาลก่อน ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังและทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กำลังพูดคุยกันถึงรายละเอียดว่าจะช่วยเหลือกลุ่มนี้รวมไปถึงกลุ่มที่ตกหล่นอีกว่าจะต้องทำอย่างไร 


รวมไปถึงกรณีที่ผู้ขอรับสิทธิอาจจะเป็นทั้งผู้พิการและสูงอายุ หรือบางกลุ่มอาจจะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทจาก"เราไม่ทิ้งกัน"หรือ "เงินเยียวยาเกษตรกร"ไปแล้วจะยังได้รับสิทธินี้หรือไม่ มีความซ้ำซ้อนหรือไม่นั้น ในเบื้องต้นหากดูจากการที่กระทรวงการคลัง ประกาศเมื่อเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนว่าได้ตรวจสอบสิทธิ์ของกลุ่มคนเปราะบางจาก 13 ล้านคน เหลือ 7 ล้านคน  และหลังจากนี้กระทรวงการคลังจะสรุปความชัดเจนแล้วจะมีการเสนอเข้าครม.ต่อไป ซึ่งหากพิจารณาจากข้อมูลที่ได้มานี้ ก็คาดว่ากลุ่มเปราะบางที่ได้สิทธิ์ "เราไม่ทิ้งกัน"หรือเงินเยียวยาเกษตรกร"ไปแล้ว อาจจะไม่มีสิทธิ์ได้เงินเยียวยาซ้ำซ้อน 

อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการคลังหรือกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดังนั้นสถานะในตอนนี้ของกลุ่มเปราะบางที่ยื่นเรื่องขอรับสิทธิ์ไปแล้วก็ต้องร้องเพลงรอกันไปก่อน

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

"เยียวยากลุ่มเปราะบาง" 13 ล้านคน เช็กเลย กลุ่มไหนเข้าเกณฑ์ได้ "รับเงินเยียวยา" บ้าง

เกาะติด "เยียวยากลุ่มเปราะบาง" เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ รับเงิน 3,000บาท