ไม่เข้าเป้า ปชช.ลดเดินทางแค่ 40% ผบ.สส.จี้ต้องได้ 90%

วันที่ 30 มี.ค. 63 เมื่อเวลา 09.50 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)  (ศบค.) ซึ่งการประชุมวันนี้ได้เปลี่ยนจากตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล มาใช้เป็นห้องเขียว ที่ตึกไทยคู่ฟ้าแทน โดยช่วงแรก เวลา 09.50 น.พล.อ.ประยุทธ์ ได้หารือวงเล็กกับระดับปลัดกระทรวงที่ห้องสีม่วง ก่อนจะประชุมฝ่ายปฏิบัติการที่ห้องสีเขียว

จากนั้นเวลา 11.30 น. นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงว่า นายกรัฐมนตรี ย้ำเรื่องหัวใจการทำงานของการทำงานนี้คือการส่งผ่านข้อมูลไปประชาชน หรือการสื่อสารที่ต้องใช้โซเชียลมีเดีย แอพพลิเคชั่น เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูล และเน้นเรื่องของการเว้นระยะห่างทางสังคมที่ต้องปฏิบัติกันทุกวันเพื่อผ่านวิกฤติไปด้วยกัน  และทำแนวทางป้องกันไม่ให้มีเชื้อมาติดทุกคนได้ ทั้งในระดับประเทศจนถึงครอบครัวและบุคคล ส่วนการควบคุมยังให้ใช้เรื่องของการกักตัวเองที่บ้าน 

โฆษกฯ กล่าวว่า นายกฯกล่าวถึงการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ที่จะเติม หาข้อมูลและมาตรการช่วยหัวหน้าผู้รับผิดชอบทุกคน และเชื่อมโยงคาบเกี่ยวกันก่อนออกมาตรการใดๆต้องหารือกันเพื่อทำให้ผลกระทบด้านดีให้มากที่สุด 

โฆษกฯ กล่าวอีกว่า ในการประชุมมีการรายงาน 3 ด้าน โดยด้านสาธารณสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สรุปสถานการณ์ประจำวัน ที่แนวโน้มผู้ป่วยสะสมกราฟยังทะยานขึ้นอยู่ แต่เมื่อเทียบกับหลายประเทศ อเมริกา อิตาลี อิหร่าน ยังอยู่ในระดับที่ดีกว่า ส่วนมาเลเซียยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันแต่ไทยยังน้อยกว่า  ส่วนสถานการณ์โดยรวมพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในต่างจังหวัดมากกว่าในกทม.มาตั้งแต่ 21 มีนาคม ดังนั้นต้องบอกประชาชนว่าต้องร่วมมือกันให้มากกว่านี้

จากนั้น นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำเสนอมาตรการที่จังหวัดภูเก็ต ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ที่แต่ละที่ใช้มาตรการเป็นแบริเออ ไม่ให้คนเคลื่อนย้ายเข้า-ออกพื้นที่ ยังเข้มข้นขั้น พร้อมกับยกตัวอย่างตัวเลขที่ภูเก็ต ที่มีผู้ติดเชื้อ 41 คน กักตัวเอง 298 คน เป็นคนในประเทศ 252 คน ต่างประเทศ 37 คน มีการปิดสถานที่ 2,532 แห่ง ห้ามประชาชนออกพื้นที่ชายหาดทุกแห่ง ถนนวอล์คกิ้งสตรีท ตังแต่ 20.00-03.00 น. 

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ต่อจากนั้น พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง มีการนำเสนอที่ประชุมถึงข้อมูลว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา เมื่อวันเสาร์ 28 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากที่มีพรก.ฉุกเฉิน เมื่อเทียบการสัญจรไป-มาในช่วงวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พบว่าจำนวนตัวเลขการจราจรทางถนนลดลง รถประจำทางลดลง 45.58% จาก 8 แสนคัน รถยนต์ส่วนบุคคลลดลง 41.33%  จาก 2 ล้านคันเหลือ 1.2ล้านคัน รถไฟฟ้าจาก 3 แสนคนต่อวันเหลือ 4 หมื่นคนต่อวัน รถไฟ/และทางน้ำก็ลดลง

“แต่ก็ต้องขอความร่วมมือประชาชนให้มากขึ้น ต้องได้ความร่วมมือลดการเดินทางให้ได้ 90% แต่นี่ยังได้เพียง 40% เศษๆเท่านั้นเพื่อลดกราฟในการแพร่เชื้อ”นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

ด้าน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า พบว่าพฤตกรรมคนไทยเปลี่ยนแปลงจากปกติ พบว่าลดการไปในพื้นที่แออัด ช่วงวันที่ 27-28 มีนาคม ได้ 71% ซึ่งต้องทำให้เป็นนิสัย อีก 67.9% รักษาระยะห่างกันเกินสองเมตร ที่ทำกันบ่อยๆให้ได้สัก 95% ถ้าทำอีกนิดเดียวก็ อยากให้ทำกันมากกว่านี้ เพื่อโรคลดลงได้ การที่โรคลดลงผู้ป่วยใหม่ลดลงคงต้องการความร่วมมือจากประชาชน