ผวาทั้ง “ร้อยเอ็ด” สั่งปิดสถานที่ หลังพบติดโควิดแล้ว3คน

28 มี.ค. 2563 | 01:01 น.

ผู้ว่าร้อยเอ็ด จัดเต็ม ปิดสถานที่เสี่ยง-สั่งงดกิจกรรม-เดินทางข้ามจังหวัด คุมระบาดโควิด หลังพบติดเชื้อ3คน และเฝ้าระวังจำนวนมาก

 

นายวันชัย คงเกษม  ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ลงนามในประกาศจังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 เรื่อง “มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีเนื้อหาโดยสรุป ดําเนินการดังต่อไปนี้

1.ปิดสถานบริการตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509 แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน และสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะคล้ายสถานบริการ ในจังหวัดร้อยเอ็ด ได้แก่ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สนุกเกอร์ และสถานที่จําหน่ายสุรา โดยจัดให้มีการจัดแสดงดนตรี ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเพลง แสง เสียง หรือกิจกรรมอื่นใดเพื่อการบันเทิง

2.ปิดสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559ในจังหวัดร้อยเอ็ด ได้แก่ ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพอบไอน้ํา อบสมุนไพร อาบ อบ นวด และนวดแผนโบราณ ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535

3.ปิดสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน และสถาบันกวดวิชา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนผู้สูงอายุ 4. ปิดโรงภาพยนตร์ สถานที่แสดงมหรสพ การจัดแสดงดนตรี คอนเสิร์ต สถานที่ที่มีการแสดง หรือการละเล่นสาธารณะ 5. ปิดร้านเกมส์ ร้านอินเตอร์เน็ต 6.ปิดสถานที่ออกกําลังกาย ฟิตเนส) สระว่ายน้ํา สวนน้ํา สวนสนุก 7.ปิดสนามมวย สนามซ้อมมวย สนามกีฬา สนามแข่งขัน สนามเด็กเล่น สนามม้า สนามกอล์ฟ สนามฝึกกอล์ฟ สนามยิงปืน สนามชนไก่ สนามคัดเลือกไก่ สนามกัดปลา บ่อตกปลา และบ่อตกกุ้ง

8.ปิดตลาดนัดโค-กระบือ 9.ร้านอาหารที่มิใช่สถานบันเทิงหรือสถานบริการและแผงจําหน่ายอาหาร ร้านอาหาร ประเภทปิ้งย่างหรือร้านอื่นที่มีลักษณะเดียวกัน สามารถจําหน่ายอาหารเฉพาะผู้บริโภคซื้อไปบริโภคนอกสถานที่ร้านอาหารและเครื่องดื่มในโรงแรมให้บริการเฉพาะผู้ที่พักอาศัยในโรงแรมหรือจําหน่ายอาหาร เพื่อนํากลับไปบริโภคนอกสถานที่ ร้านอาหารและเครื่องดื่มในโรงพยาบาลโดยให้ จัดสถานที่ให้เป็นไปตามข้อ 20ของประกาศฉบับนี้

10.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือห้างร้านที่มีร้านค้าย่อยในอาคาร หรือบริเวณเดียวกัน ให้เปิดเฉพาะแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ต แผนกขายยา ธนาคาร ส่วนที่จําหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภคที่จําเป็นต่อการดํารงชีวิต เช่น แผนกไฟฟ้า ประปา ศูนย์บริการโทรศัพท์หรือระบบสื่อสาร ในส่วนแผนกอาหาร ร้านอาหาร สามารถจําหน่ายอาหารเฉพาะผู้บริโภคซื้อไปบริโภคนอกสถานที่ 11.ปิดพื้นที่นั่งหรือยืนรับประทานอาหารในร้านสะดวกซื้อ ร้านเครื่องดื่ม และซุปเปอร์มาร์เก็ต

12. ปิดตลาดคลองถม ตลาดถนนคนเดิน สําหรับตลาดและตลาดนัด ให้สามารถจําหน่าย เฉพาะอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสําเร็จ อาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ และสินค้าเบ็ดเตล็ดอันจําเป็นต่อการ ดํารงชีวิต โดยให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามข้อ 20 ของประกาศฉบับนี้ 13. ปิดร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่งผม (ยกเว้นร้านที่ไม่จัดที่นั่งคอย) 14.ปิดสถานที่บริการสักผิวหนังหรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย 15.ปิดศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่อง พระบูชา

16.ให้งดกิจกรรมการรวมคนจํานวนมาก ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดฯ ที่มีคนเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 100 คนขึ้นไป เช่น การประชุม อบรม สัมมนา 17. ควรงดหรือชะลอการจัดกิจกรรมหรือพิธีทางสังคม เช่น พิธีมงคลสมรส พิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ยกเว้นพิธีศพ กิจกรรมหรืองานพิธีที่ทางราชการจัดขึ้นหรือเป็นไปตามหมายกําหนดการของทางราชการ ยังคงจัดได้ ตามความเหมาะสม แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ข้อ 20 ของประกาศฉบับนี้

18. ให้งดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัดของหน่วยงานที่มีคนจํานวนมาก หรือหาก จําเป็นต้องเคลื่อนย้าย ต้องมีมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของโรค เช่น การคัดกรองคนก่อนเคลื่อนย้าย รวมถึงจํากัดการเคลื่อนย้ายของแรงงานต่างด้าว เป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

19. คําแนะนําเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ในช่วงเวลานี้ประชาชนพึงงดหรือ ชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในระยะนี้โดยไม่จําเป็นและควรพํานักหรือทํางานอยู่ ณ ที่พํานักของตน กรณีจําเป็นจะต้องเดินทางข้ามเขตพื้นที่ ต้องรับการตรวจคัดกรอง และปฏิบัติตามมาตรการที่ทางราชการ กําหนด ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการติดตามตัวมารับการตรวจอาการ หรือกักกันตัว

20.กําหนดมาตรการป้องกันโรค ให้มีมาตรการป้องกันโรค ดังนี้ 1.ให้ทําความสะอาดโดยการเช็ดทําความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ ที่เกี่ยวข้องก่อนการจัดกิจกรรม และให้กําจัดขยะมูลฝอยทุกวัน 2.ให้เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ ผู้ร่วมงาน ผู้ร่วมกิจกรรม ลูกจ้าง ผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า 3ให้บุคคลให้บุคคลตามข้อ2 ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์เจลหรือน้ํายาฆ่าเชื้อโรค 4.ให้บุคคลตาม (2) เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อยหนึ่งเมตรเพื่อป้องกันการ ติดต่อสัมผัส หรือแพร่เชื้อโรคทางฝอยละอองน้ําลาย 5.ให้ควบคุมจํานวนผู้ร่วมกิจกรรมมิให้แออัด หรือลดเวลาในการทํากิจกรรม ให้สั้นลงเท่าที่จําเป็นโดยถือหลักการหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน

21. ห้ามการเสนอข่าวหรือทําให้แพร่หลายทางสื่อต่าง ๆ ซึ่งมีข้อความหรือข่าวสารเกี่ยวกับ สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อันไม่เป็นความจริงหรืออาจจะทําให้ประชาชน เกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารดังกล่าวอันทําให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ ฉุกเฉิน จนกระทบต่อการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ในกรณีเช่นนี้ ให้เจ้าหน้าที่เตือนให้ระงับหรือสั่งให้แก้ข่าว หรือหากเป็นกรณีที่มีผลกระทบรุนแรงให้ดําเนินคดีตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือพระราชกําหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน  หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้ มีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกําหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ละอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติ โรคติดต่อ พ.ศ. 2558

การดําเนินการตามมาตรการนี้เป็นการดําเนินการชั่วคราวจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง เป็นอย่างอื่น กรณีมีความจําเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด อาจประกาศเปลี่ยนแปลงหรือลดเงื่อนไขตาม ประกาศนี้ได้ ประกาศใดขัดหรือแย้งประกาศนี้ ให้ใช้ประกาศฉบับนี้แทน ทั้งนี้ตั้งแต่ วันที่ 27 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป 

ประกาศ ณ วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2563 

ผวาทั้ง “ร้อยเอ็ด” สั่งปิดสถานที่ หลังพบติดโควิดแล้ว3คน

ผวาทั้ง “ร้อยเอ็ด” สั่งปิดสถานที่ หลังพบติดโควิดแล้ว3คน

ผวาทั้ง “ร้อยเอ็ด” สั่งปิดสถานที่ หลังพบติดโควิดแล้ว3คน

ผวาทั้ง “ร้อยเอ็ด” สั่งปิดสถานที่ หลังพบติดโควิดแล้ว3คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานที่จังหวัดร้อยเอ็ด ข้อมูล ณ วันที่ 27 มีนาคม 2563 มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19  จำนวน 110 ราย พบ ผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 จำนวน 3 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 97 ราย และ อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ จำนวน 10 ราย 

ข้อมูลการติดตามผู้เดินทางมาจากพื้นที่เขตติดโรคติดต่ออันตราย (จีน เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน) (ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 26 มีนาคม 2563) มีผู้แยกกักกันตัวเองที่บ้านพักจำนวน 103 คน ติดตามเฝ้าระวังครบ 14 วัน จำนวน  91 คน  และอยู่ในระหว่างติดตามยังไม่ครบ  14 วัน   จำนวน 12 คน   ส่วนการติดตามผู้เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดต่อเนื่องจำนวน  29  ประเทศ (ตามประกาศของกรมควบคุมโรค) คุมไว้สังเกตอาการที่บ้านพัก จำนวน  278 คน ????ติดตามครบ 14 วัน จำนวน  235 คน อยู่ระหว่างติดตามยังไม่ครบ 14 วัน จำนวน 43 คน

ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 8,066 ราย ขอความร่วมมือในการสังเกตอาการ ที่บ้านพัก และแยกตนเองออกจากผู้อื่น 

และขณะเดียวกันจังหวัดร้อยเอ็ด ได้มีคำสั่ง เรื่อง จัดตั้งจุดตรวจการควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 ของจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด จึงมีคำสั่งตั้งจุดตรวจการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จำนวน 10จุด ใน #10อำเภอ โดยมีชุดตรวจการแบ่งกัน 3 ผลัด ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการสนธิกำลังระหว่าง ฝ่ายปกครอง ตำรวจ เจ้าหน้าที่ขนส่ง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งได้บูรณาการเป็นจุดตรวจ ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งมาตรการด้านความปลอดภัยทางถนน (10 รสขม) ให้มีการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่ประชาชน เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563

และเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดร้อยเอ็ด ขอความร่วมมือ ให้ประชาชนควรอยู่บ้าน ไม่ออกนอกบ้าน โดยเฉพาะบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้สูงอายุ 70ปีขึ้นไป/ อายุใดก็ตามแต่มีโรคประจำตัว โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคระบบทางเดินหายใจ และโรคปอด เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ลงมา ซึ่งบุคคล   ทั้ง 3 กลุ่มเมื่อป่วยด้วยโรคโควิด-19 แล้วจะมีอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไป  จึงขอความร่วมมือทุกท่าน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” “ล้างมือ กินร้อน ไม่กินร่วม สวมหน้ากากอนามัย อยู่ไกลกัน 2 เมตร ”โควิดติดง่ายป้องกันไว้กันทุกคน”