บทเรียนในการทำสื่อ

17 ก.พ. 2563 | 02:38 น.

คอลัมน์แสงเทียนกลางพายุ โดยฉาย บุนนาค

 

จากรายการ live สด “ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง” ของ “คุณสนธิ ลิ้มทองกุล” เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2563 ที่ผ่านมา…

หนึ่งในผู้ถูกพาดพิงจากการเล่าเรื่องครั้งนี้ของ “คุณสนธิ” คือ “ผม” จึงขอเล่าข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งให้สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลที่ครบถ้วนร่วมกัน

“คุณสนธิ ลิ้มทองกุล” หรือ “อาสนธิ” คือ เพื่อนรักของพ่อผม (คุณยุทธ ชินสุภัคกุล) ตั้งแต่สมัยเรียนโรงเรียนประจำที่อัสสัมชัญ ศรีราชา… นอกจากนั้น “อาสนธิ” ยังเคยได้ร่วมงานกับแม่ของผมตั้งแต่สมัยทำงานที่ PSA (พร สิทธิอำนวย)…

ซึ่งที่ผ่านมาแม่ผมได้ชื่นชม “อาสนธิ” อยู่บ่อยครั้งถึงวิสัยทัศน์และทักษะด้านการโน้มน้าวจิตใจคนผ่านการพูดจา…

ผมได้พบกับ “อาสนธิ” ครั้งแรกที่ “บ้านพระอาทิตย์” หรือ ออฟฟิศของ ASTV ผู้จัดการ เมื่อต้นปี พศ. 2558 ด้วยการแนะนำของคุณยุทธ… หลังจากนั้นผมยังได้พบปะพูดคุย… แลกเปลี่ยนแนวคิดและรับการชี้แนะประสบการณ์จาก “อาสนธิ” อย่างสม่ำเสมอโดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องการทำสื่อและเรื่องการท่องยุทธจักรบู๊ลิ้ม…  

แม้กระทั่งภายหลังช่วงที่ “อาสนธิ” ต้องโทษจำคุก ช่วงระหว่าง เดือน ก.ย.2559 ถึง เดือนก.ย.2562 … ผมก็ได้ไปเยี่ยมและพูดคุยเป็นครั้งคราวเสมอมา

จนล่าสุด… เมื่อ “อาสนธิ” ออกจากเรือนจำ… ผมก็ได้ไปเยี่ยมเยียนอีกครั้งด้วยความเคารพพร้อมคุณพ่อ…

การที่ “อาสนธิ” ออกมาพูดพาดพิงถึงผมและองค์กร… จากข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนและคลาดเคลื่อนจึงเป็นสิ่งที่ผมต้องขอเพิ่มเติมข้อเท็จจริงเพื่อทราบ…

1. ผมดำรงตำแหน่ง “ประธานกรรมการบริหาร”… ของ “เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป” และ “เนชั่นทีวี“… ดังนั้นตามสายงานปฏิบัติ… ผมมิได้มีหน้าที่ยุ่งเกี่ยวใดๆโดยตรงกับกองบรรณาธิการของแต่ละสื่อ… ผมมีหน้าที่เพียงกำหนดนโยบาย และควบคุมคุณภาพมาตรฐาน “อาหารทางความคิด” เพื่อสังคมส่วนรวม

2. “คม ชัด ลึก” คือ สื่อสิ่งพิมพ์รวมถึงออนไลน์ใน “เครือเนชั่นกรุ๊ป” ซึ่งยึดถือหลักอุดมการณ์ร่วมกันในการทำหน้าที่ดูแลปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ… ทะนุบำรุงศาสนา… และเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง

ด้วยแนวทางนี้… เราจึงมีหน้าที่ตรวจสอบและนำเสนอข้อเท็จจริงทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะโดยไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด… เราไม่มีแนวคิดในการใช้สื่อเพื่อการรีดไถหรือเพื่อแสวงหาประโยชน์เพื่อใครคนหนึ่งหรือเพื่อทำลายล้างคู่แข่ง…

3. เกี่ยวกับเรื่องการพบปะพูดคุยกับ “ผบ.ตร. จักรทิพย์ ชัยจินดา” หรือ “พี่แป๊ะ”… ผมได้รับการร้องขอเพื่อชี้แจงข้อมูลจาก “พี่แป๊ะ” ผ่านการบอกกล่าวจากภรรยา “คุณวทันยา วงษ์โอภาสี” ซึ่งรู้จักกับ “พี่แป๊ะ” เดิมอยู่แล้ว… และเสมือนคนอื่นๆ หน้าที่ของผมคือการรับผิดชอบและเปิดโอกาสในการสื่อสาร…และประสานข้อมูลทุกด้านให้กองบรรณาธิการรับทราบเพื่อสื่อสารสาระประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป…

4.ด้านสถานะการเงินขององค์กรในเครือเนชั่น… ผมขอเรียนว่าเราได้แก้ไขปัญหาหนี้สินกว่า 3.8 พันล้านจนเกือบหมด เหลือเพียงหนี้สินหมุนเวียนทั่วไป… ด้านผลประกอบการและความนิยมของช่องเนชั่น…เราไม่ได้ขาดทุนอย่างที่กล่าว… เรามีกำไรสุทธิกว่า 432 ล้านบาท และมีรายได้เติบโตขึ้นเกือบ 100%... อีกทั้งเราได้พัฒนาเรทติ้งกว่า 3 เท่า (จาก 65,000 ไปที่ 180,000 เฉลี่ยผู้ชมต่อนาที) ในระยะเวลาหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมาและได้ตอกย้ำความเป็นช่องข่าวอันดับ 1 ของประเทศ…

ด้านผลตอบแทนต่อพนักงานล่าสุด เราได้จ่ายโบนัสประจำปีให้พนักงานที่ร่วมทุ่มเทแรงกายแรงใจกันมาทุกท่าน… ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ล่าสุดเราได้ร่วมกับมูลนิธิศรีธรรมราชา… ศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์... เจ้าคณะสงฆ์ภาคใต้... ในการร่วมระดมทุน สร้างตึกสงฆ์อาพาธที่จังหวัดนครศรีธรรมราช... จำนวนกว่า 90 เตียง ซึ่งมีมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท และจะเป็นตึกสงฆ์อาพาธที่รองรับพระภิกษุได้มากที่สุดในภาคใต้

โดยส่วนตัว ผมมีความเคารพ “อาสนธิ” เสมอมาในฐานะเพื่อนรักของพ่อ และในฐานะผู้อาวุโสในแวดวงสื่อสารมวลชน

ผมยังจำได้ดีถึงวันที่ “อาสนธิ” อุ้มลูกผมทั้งสองของผมด้วยความเมตตา…

แม้ในอดีตผมเคยลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งอาจเคยหวือหวาไปบ้าง แต่ก็ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย… และปัจจุบันผมได้เรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิต เลิกเล่นหุ้นไปแล้วอย่างเด็ดขาด…

ในฐานะของผู้ด้อยประสบการณ์กว่า… การเรียนรู้ศึกษาประสบการณ์จากรุ่นพี่ในวงการสื่อ… ทั้งดีและร้ายจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในพัฒนาให้องค์กรได้เรียนทางลัดและได้สร้างสรรค์คุณธรรมสูงสุดเพื่อส่วนรวม

ด้วยข้อเท็จจริงทั้งหมดนี้ จากการที่ “อาสนธิ” พูดเรื่องการรบ… การต่อสู้… ผมขอเรียนว่าองค์กรเรามีหน้าที่รบกับศัตรูของประเทศชาติบ้านเมืองเพียงเท่านั้น… และจะไม่มีคำว่าสงครามสื่อ

ด้วยจิตคารวะ