ให้สตช.ตั้งกองบังคับการก.ม.-คดีสังกัดตำรวจภูธรภาค 1-9 

28 ม.ค. 2563 | 10:19 น.

ครม.อนุมัติให้ สตช.จัดตั้งกองบังคับการกฎหมายและคดีในสังกัดตำรวจภูธรภาค 1-9 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเห็นแย้งคำสั่งอัยการในสำนวนคดีอาญา คดีอุทธรณ์ และคดีฎีกา

ให้สตช.ตั้งกองบังคับการก.ม.-คดีสังกัดตำรวจภูธรภาค 1-9 

28 มกราคม 2563 ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ตามที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 145/1 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากำหนดให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคหรือรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี มีอำนาจหน้าที่พิจารณาทำความเห็นแย้งคำสั่งของพนักงานอัยการในสำนวนคดีอาญา คดีอุทธรณ์ และคดีฎีกา ที่พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง ไม่อุทธรณ์ ไม่ฎีกา ขอถอนฟ้อง ขอถอนอุทธรณ์ หรือขอถอนฎีกา อำนาจหน้าที่ที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นเหตุให้มีปริมาณงานที่ต้องรับผิดชอบเพิ่มขึ้น เพื่อให้โครงสร้างการทำงานตำรวจภูธรภาค 1-9 มีความเหมาะสมกับภาระงาน ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ เห็นชอบให้จัดตั้งกองบังคับการกฎหมายและคดีเป็นส่วนราชการระดับกองบังคับการสังกัดตำรวจภูธรภาค 1-9 ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการทำความเห็นแย้งคำสั่งพนักงานอัยการกรณีสั่งไม่ฟ้อง ไม่อุทธรณ์ ไม่ฎีกา ขอถอนฟ้อง ขอถอนอุทธรณ์ หรือขอฎีกา รวมถึงงานด้านสอบสวนคดีอาญา งานด้านคดีปกครอง คดีแพ่ง และงานอื่นๆที่เกี่ยวกับกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 1-9 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดรับกับปริมาณและประเภทงาน การจัดตั้งกองบังคับการเพิ่มเติมนี้ มีการกำหนดตำแหน่งข้าราชการ 982 ตำแหน่ง โดยใช้วิธีการปรับเกลี่ยตำแหน่งและกำลังคนภายใน ไม่ทำให้จำนวนตำแหน่งในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพิ่มขึ้น ส่วนงบบุคลากรในส่วนของเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษเพิ่มขึ้น จำนวน 151 ตำแหน่ง ประมาณค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 30 ล้านบาทต่อปี จะใช้การถัวจ่ายงบประมาณประจำปี จึงไม่เกิดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด