แม่น้ำสายหลักเหนือ“น้ำน้อย-น้ำน้อยวิกฤติ”

09 ม.ค. 2563 | 06:30 น.

 

วันนี้ (9 มกราคม 2563) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) รายงานระดับน้ำในแม่น้ำสำคัญว่า ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักในภาคเหนือ มีระดับ “น้ำน้อยถึงน้ำน้อยวิกฤต” ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีระดับ “น้ำน้อย” โดยเฉพาะต้นน้ำของแม่น้ำชี ส่วนภาคตะวันออกและภาคกลางมีระดับ “น้ำปานกลางถึงน้ำมาก” และมีน้ำล้นตลิ่งต่ำบริเวณปากแม่น้ำในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ภาคใต้ มีระดับ "น้ำปานกลางถึงน้ำน้อย"

 

ขณะที่ความเค็มในแม่น้ำสำคัญ อาทิ แม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีสูบน้ำสำแล จังหวัดปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีคลองลัดโพธิ์ จังหวัดสมุทรปราการ วัดได้ 13.59 กรัม/ลิตร โดยมีความเค็มสูงสุดเมื่อวานนี้ 15.90 กรัม/ลิตร เกินเกณฑ์มาตรฐานน้ำใช้เพื่อการเกษตร ที่ 2.0 กรัมต่อลิตร

 

ส่วนปริมาณน้ำกักเก็บรวมทั้งประเทศอยู่ร้อยละ 62 % โดยเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำกักเก็บ 20%  ใช้น้ำใต้ระดับกักเก็บไปแล้ว 100.51 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยสถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์ “น้ำน้อยวิกฤต” ขณะที่ เขื่อนจุฬาภรณ์ มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ27 เป็นน้ำใช้การได้จริง 8 ล้านลูกบาศก์เมตร สถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์ “น้ำน้อย”  เช่นเดียวกับอีก 8 เขื่อนสำคัญ คือ เขื่อนลำพระเพลิง มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 14 เป็นน้ำใช้การได้จริง 20 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนลำนางรอง มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 19  เป็นน้ำใช้การได้จริง 19 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแม่กวงฯ มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 29  เป็นน้ำใช้การได้จริง 61 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนป่าสัก มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 23 เป็นน้ำใช้การได้จริง 216 ล้านลูกบาศก์เมตร

 

เขื่อนทับเสลา มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 23 เป็นน้ำใช้การได้จริง19 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนกระเสียว มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 20  เป็นน้ำใช้การได้จริง 21 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนคลองสียัด มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 25 เป็นน้ำใช้การได้จริง 77 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่สถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์ “น้ำน้อย”  

 

ขณะที่มีรายงานว่า ในช่วงวันที่ 9-11 มกราคม 2563  บริเวณความกดอากาศสูงที่อ่อนกำลังลง  ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น ส่วนลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับอาจเกิดหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นแต่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง

 

ช่วงวันที่ 12-15 มกราคม2563 บริเวณความกดอากาศสูงยังคงมีกำลังอ่อน ส่วนลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ส่งผลให้ภาคใต้ยังคงมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางในบางแห่ง และช่วงวันที่ 9-11 มกราคม 2563 ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ส่งผลให้คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง มีคลื่นสูงประมาณ 1-1.5 เมตร