รัสเซียรุกคุมออนไลน์ สะเทือน Apple

24 พ.ย. 2562 | 02:59 น.

คอลัมน์ หลังกล้องไซบีเรีย : รัสเซียรุกคุมออนไลน์ สะเทือน Apple  เรื่อง/ภาพ: ยลรดี ธุววงศ์

    ดูเหมือนว่าช่วงนี้รัฐบาลรัสเซียจะ “ท็อปฟอร์ม” ยังคงรุกหน้าร่างกฎหมายเกี่ยวกับ “การป้องกันและตรวจสอบโลกออนไลน์” อย่างต่อเนื่อง กับร่างผลงานล่าสุดที่มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า “กฎหมายแบน Apple” ที่เขาว่ากันว่า อาจทำให้ Apple ตัดสินใจโบกมือลาตลาดรัสเซียไปเลยก็เป็นได้
    กลายเป็นเรื่องใหญ่ในวงเพื่อนฝูงชาวรัสเซียทีเดียว หลังจากที่เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาสภาล่างรัสเซียลงมติเห็นชอบการพิจารณาร่างกฎหมาย “แบน Apple” ซึ่งผ่านแบบฉลุย (มีเสียงค้านเพียงเสียงเดียว) มาต่อเนื่อง 2 วาระแล้ว เหลือเพียงวาระตรวจทานสุดท้ายก็พร้อมยื่นให้ประธานาธิบดีเซ็นรับรองประกาศใช้ได้ในเร็วๆ นี้
    ชื่อเล่นนี้มาจากไหน? ทำไมบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ระดับโลกถึงตกเป็นเป้าหมายไปได้?
    

    รัสเซียรุกคุมออนไลน์ สะเทือน Apple

    ความจริงแล้วตัวเนื้อหาไม่ได้ระบุตรงๆ หรอกว่า เป้าหมายหลักของงานนี้คือ Apple แต่คือกฎหมายที่จะคลอดออกมาเป็นผลต่อเนื่องจากกฎหมายให้สิทธิ์รัฐบาลรัสเซียตัดระบบอินเทอร์เน็ตจากชาวโลก สร้างระบบปิดในประเทศเอง ซึ่งเพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยจะห้ามไม่ให้ขายอุปกรณ์ตระกูลสมาร์ททั้งหลายที่ไม่ได้ติดตั้งโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของรัสเซียในตัวเครื่องล่วงหน้าก่อนวางขายในท้องตลาด
    แต่...ไม่ใช่แค่สมาร์ทโฟนเท่านั้น อุปกรณ์ที่อยู่ในลิสต์ท้ายร่างกฎหมายนี้รวมถึงสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และสมาท์ททีวีก็โดนเหมารวมทั้งหมดในกฎหมายใหม่นี้ ส่วนจะมีแอปพลิเคชันรัสเซียอะไรบ้างที่ต้องบังคับติดตั้งลงไป รัฐบาลจะเป็นคนคัดสรรให้เองกับมือ ตอนนี้ขออุบไว้ก่อน
    ในฉากหน้า ร่างกฎหมายนี้เกิดขึ้นเพื่อ “ส่งเสริมผู้พัฒนาซอฟแวร์ชาวรัสเซีย” ผลักดันตลาดนักพัฒนาแอปพลิเคชันท้องถิ่น (รัฐบาลยืนยันนอนยันว่า ไม่ได้เกิดจากบริษัทซอฟท์แวร์ท้องถิ่นไหนมาล็อบบี้ทั้งนั้น) ป้องกันให้บริษัทต่างชาติใช้ช่องออนไลน์เข้ามา “สปาย” ข้อมูลในประเทศ แต่มองอีกมุมก็อาจแปลอ้อมๆ ได้ว่าเป้าหมายหลักคือการแบน Apple 
    ที่เป็นเช่นนั้นเพราะ IOS มีคุณสมบัติเป็นระบบปฏิบัติการแบบปิดต่างจากระบบอื่น เมื่อเปิดเครื่องใช้งานมาครั้งแรก เราจะพบเพียงแต่ซอฟแวร์ของเครื่อง Apple ที่ติดตั้งมาก่อนแล้ว และบริษัทไม่อนุญาตให้ตัวแทนจำหน่ายสินค้าในประเทศต่างๆ ติดตั้งซอฟท์แวร์ท้องถิ่นรวมทั้งการใส่แอปพลิเคชันที่ไม่ได้รับการรับรอง เพิ่มเติมลงในเครื่องด้วย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมร่างกฎหมายฉบับนี้ถึงมีชื่อเล่นเรียกกันสั้นๆ ว่า “กฎหมายแบน Apple” นั่นเอง
    คาดว่ากฎหมายใหม่นี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 1 กรกฎาคมปีหน้า ซ้ำหากผู้ผลิตหรือผู้ขายที่ไม่ทำตามกฎหมายนี้ ยังอาจต้องโดนค่าปรับถึง 2 แสนรูเบิล หรือราว 1 แสนบาท งานนี้คงกระทบต่อสินค้า Apple รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัววางขายในปีหน้าอย่างแน่นอน
    ถือว่าเป็นข้อวัดใจโจทย์ใหญ่สำหรับ Apple ซึ่งมีจุดขายที่แข็งแกร่งเรื่องการรักษาข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า อย่างที่เห็นจากกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นในเมืองซาน เบอร์นาร์ดิโน รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2558 ซึ่งบริษัทเคยงัดข้อกับทางการ ยืนยันไม่ให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจปลดล็อกเครื่อง iPhone ของมือปืนผู้ก่อเหตุร้ายจนเป็นเรื่องราวใหญ่โตมาแล้ว
ต้องดูว่า สุดท้ายแล้วบริษัทจะยอมอ่อนข้อปรับตัวเข้ากับกฎหมายท้องถิ่นรัสเซีย ส่งฐานข้อมูลผู้ใช้งานให้กับรัฐบาลรัสเซียเพื่อทำการตลาดต่อ หรือเลือกยอมถอยทัพออกจากตลาดที่มีมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท แล้วถ้าในอนาคตประเทศอื่นคลอดกฎหมายที่คล้ายคลึงกันออกมาอีก บริษัทจะเดินหน้าเช่นไร
 

รัสเซียรุกคุมออนไลน์ สะเทือน Apple

    จากท่าทีของรัฐบาลรัสเซียในระยะหลังต่อการจัดการบริหารระบบออนไลน์แล้ว คาดว่าในอีกไม่ช้า คงมีกฎหมายอันแปลกใหม่มากๆ ผุดขึ้นตามมาอย่างไม่หยุดหย่อนเพื่อปูทางไปสู่การสร้าง “RUNet” ระบบเซิร์ฟเวอร์ออนไลน์ที่บริหารจัดการโดยรัฐบาลรัสเซียได้สมบูรณ์ในเวลาอันใกล้
    แน่นอนว่าในเบื้องต้น กลุ่มที่จะได้รับกระทบโดยคือชาวรัสเซียเองที่ยังต้องใช้งานอินเทอร์เน็ตในชีวิตประจำวันแบบไม่มีทางเลือก แต่ก็เป็นไปได้ว่าอาจส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานต่างประเทศอย่างเราๆ ที่เข้าไปเยือนรัสเซียหรือลงทะเบียนใช้งานซอฟท์แวร์หรือแอปพลิเคชันที่จัดทำโดยผู้ผลิตชาวรัสเซียด้วย